นอกจากเบาะรถยนต์จะให้ความสบายแก่ผู้ขับขี่และผู้โดยสารแล้ว อีกด้านหนึ่ง ยังเป็นอุปกรณ์ภายในรถที่รับบทหนักมาก เพราะรองรับทั้งคราบเหงื่อไคล ฝุ่นละออง อาหารที่หกเลอะและกลิ่นรบกวน รวมทั้งเชื้อโรคสารพัด หากปล่อยไว้นานๆ และสะสมไปเรื่อยๆ จะส่งผลเสียต่อสุขภาพและและอาจก่อให้เกิดโรคร้ายได้อย่างคาดไม่ถึง หลายคนอาจคิดว่าวิธีทําความสะอาดเบาะรถยนต์เป็นเรื่องยาก แต่จริงๆ แล้วมันง่ายกว่าที่คิดและสามารถทำได้ด้วยตัวเอง
ของมันต้องมี! เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมก่อนลงมือ
ฝุ่นละอองสะสม คราบสกปรกฝังแน่น กลิ่นเหม็นอับ เชื้อโรคผนวกเชื้อรา เป็นปัญหาน่าปวดหัวที่จัดการได้ เพียงแค่เตรียมอุปกรณ์การทำความสะอาดให้พร้อม ดังนี้
แปรงขนอ่อน แปรงสีฟันเก่า หรือแปรงที่ใช้ขัดรองเท้าก็ได้
กระดาษทิชชูและแป้งเด็ก (สำหรับทำความสะอาดเบาะผ้า)
ฟองน้ำอย่างดี (แบบไม่เป็นขุย)
กระป๋องใส่น้ำ/กระบอกฉีดน้ำ
น้ำยาล้างจานหรือน้ำสบู่เจือจาง (ถ้าใช้สบู่สูตรออแกนิคก็จะได้กลิ่นของน้ำมันหอมระเหยธรรมชาติเป็นโบนัสด้วย)
แอลกอฮอล์ 70% ชนิดน้ำ หรือน้ำยาทำความสะอาดและฆ่าเชื้อ (ควรเลือกสูตรเฉพาะที่ใช้ได้กับเบาะหนัง เบาะผ้า หรือเบาะกำมะหยี่)
เครื่องดูดฝุ่น
ผ้าสะอาด ถ้าจะให้ดีควรเป็นผ้าไมโครไฟเบอร์ เพราะใช้ได้กับทุกพื้นผิว
สำหรับเบาะหนัง อาจเพิ่มผลิตภัณฑ์บำรุงเบาะหนังโดยเฉพาะหรือเบบี้ออยมาเป็นตัวเสริม
วิธีทำความสะอาดเบาะหนังและไวนิล
เบาะหนังสามารถทำความสะอาดได้ง่ายกว่าเบาะผ้าหรือกำมะหยี่ เพราะไม่ซับน้ำและไม่กักเก็บฝุ่นเหมือนเบาะผ้า แต่พื้นผิวของเบาะหนังก็เป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคได้ไม่ต่างกัน
เบาะหนังส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นหนังแท้หรือหนังเทียม ซึ่งมีการเคลือบยูรีเทนเพื่อความทนทาน สามารถใช้แอลกอฮอล์เช็ดทำความสะอาดได้โดยไม่ทำลายพื้นผิว แต่เมื่อเวลาผ่านไป การทำความสะอาดด้วยแอลกอฮอล์อาจทำให้หนังสีซีดจางและเสียหาย แนะนำให้ใช้ผ้าชุบน้ำสบู่เช็ดถูเบาๆ ก็สามารถทำความสะอาดและฆ่าเชื้อได้เหมือนกัน
วิธีทำความสะอาดเบาะหนังเริ่มด้วยการใช้แปรงขนอ่อนปัดฝุ่นละอองตามตะเข็บเบาะและซอกมุมต่างๆ ออกมาพร้อมกับใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดฝุ่นเหล่านั้นออกให้หมด จากนั้นใช ้ฟองน้ำชุบน้ำสบู่หรือน้ำยาล้างจานเจือจางเช็ดถูให้ทั่ว เน้นบริเวณที่มีคราบสกปรก สำหรับคนที่กลัวเบาะหนังจะเสียหรือเกรงว่าน้ำยาล้างจานจะทำลายผิวเบาะ เราขอแนะนำซันไลต์พลัส มายด์ แอนด์ แคร์ กับ ซันไลต์ พลัส เพียว รุ่นอ่อนโยน
หลังจากนั้นใช้ผ้าเช็ดให้แห้ง ควรรอให้เบาะแห้งสนิทจริงๆ ก่อนแล้วค่อยตามด้วยผลิตภัณฑ์บำรุงเบาะหนังโดยเฉพาะหรือเบบี้ออย เพื่อรักษาไม่ให้หนังแห้งและแตก
วิธีทําความสะอาดเบาะรถยนต์ผ้า
เบาะผ้าเหมาะกับรถยนต์ที่ใช้งานในประเทศที่มีอากาศร้อนมากกว่าเบาะหนัง แต่ก็มีข้อเสียตรงที่ถ้าเปียกแล้วแห้งยาก สะสมความชื้นที่อาจก่อให้เกิดกลิ่นอับ เกิดคราบสกปรกง่าย แล ะกักเก็บฝุ่น
วิธีทำความสะอาดเบาะผ้าเริ่มด้วยการใช้แปรงขนอ่อนปัดฝุ่น เส้นผม หรือขนสุนัขให้หลุดออกมาจากเนื้อผ้า พร้อมกับใช้เครื่องดูดฝุ่นเหล่านั้นออกจนหมด จากนั้นขจัดคราบสกปรกเฉพาะจุด โดยใช้แปรงสีฟันชุบน้ำสบู่แล้วค่อยๆ ขัดคราบสกปรกออก ใช้ฟองน้ำชุบน้ำเปล่าซับเฉพาะจุดที่ขจัดคราบออกจนรอยสกปรกจางหายไป
ขั้นต่อไป เติมน้ำยาหรือน้ำสบู่ที่ผสมเจือจางแล้วลงกระบอกฉีด แล้วฉีดไปที่เบาะบางๆ ค่อยฉีดบริเวณที่จะทำความสะอาดที่ละส่วน ใช้ฟองน้ำค่อยๆ ไล่เช็ดเบาๆ ให้ทั่วบริเวณที่ฉีดน้ำยาไว้ ถ้าสกปรกมากก็ทำซ้ำตรงจุดนั้นจนสะอาด สามารถใช้แปรงขนอ่อนขัดเบาๆ หากมีคราบสกปรกฝังอยู่
เมื่อแน่ใจว่าสะอาดดีแล้ว ให้ใช้ผ้าแห้งซับน้ำออก ตามด้วยการฉีดพ่นแอลกอฮอล์ ซึ่งจะช่วยนำพาความชื้นออกจากเบาะ ทำให้เบาะผ้าแห้งเร็วขึ้น ทั้งยังมีคุณสมบัติฆ่าเชื้อโควิดไปในตัวด้วย
วิธีขจัดรอยเปื้อนบนเบาะผ้าอีกวิธี คือ นำกระดาษทิชชูเช็ดชุบน้ำเช็ดตรงรอยเปื้อน พร้อมกับโรยแป้งเด็ก แป้งเด็กจะดูดน้ำและจับตัวเป็นก้อน ทิ้งไว้ให้แห้งแล้วให้ใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดออก แต่ถ้ายังมีคราบสกปรกหลงเหลืออยู่ อาจต้องพึ่งพาน้ำยาทำความสะอาดเบาะผ้ามาเป็นตัวช่วยสุดท้าย
วิธีทําความสะอาดเบาะรถยนต์กํามะหยี่
การดูแลรักษาเบาะรถยนต์ที่หุ้มด้วยกำมะหยี่อาจต้องใช้ความพิถีพิถันมากกว่าเบาะหนังและเบาะผ้า เริ่มด้วยการใช้มือตบลงบนเบาะเบาๆ แล้วใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดฝุ่นละอองทั้งหลายออกก่อน ในกรณีที่บนเบาะกำมะหยี่มีฝุ่นเกาะสะสมอยู่มาก ให้แปรงด้วยแปรงขนม้าหรือแปรงที่ใช้สำหรับแปรงผ้ากำมะหยี่โดยเฉพ าะ จากนั้นใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดบนเบาะและโครงผ้ากำมะหยี่อีกรอบ
ในกรณีที่มีรอยเปื้อนหรือคราบสกปรกฝังแน่น เช่น รอยหมึกหรือคราบกาแฟ แนะนำให้ใช้น้ำยาทำความสะอาดเบาะกำมะหยี่สูตรสำเร็จจะได้ผลมากกว่า หลังจากที่ฉีดน้ำยาและไล่เช็ดจดสะอาดแล้ว ให้นำฟองน้ำที่สะอาดชุบน้ำสะอาดบิดให้หมาดที่สุดเท่าที่จะทำได้มาเช็ดคราบน้ำยาที่อาจตกค้างตามเบาะจนหมด
ทริคเพิ่มเติม เสริมประสิทธิภาพการทำความสะอาดเบาะรถ
กรณีมีคราบปัสสาวะของเด็กหรือสัตว์เลี้ยง ให้เช็ดด้วยน้ำธรรมดา 1 เที่ยว จากนั้นใช้น้ำส้มสายชู 3 ช้อนโต๊ะผสมกับสบู่เหลว 1 ช้อนชา เช็ดถูบริเวณรอยเปื้อน ทิ้งไว้ 15 นาที จึงเช็ดออกด้วยฟองน้ำชุบน้ำเปล่าหมาดๆ น้ำส้มสายชูเป็นตัวช่วยในการกำจัดกลิ่นได้ดีมาก
ข้อควรระวังสำหรับการทำ ความสะอาดเบาะผ้าด้วยน้ำสบู่ คือ ต้องระวังไม่ให้เบาะเปียกเกินไป เพราะน้ำอาจซึมเข้าไปด้านในจนเป็นเหตุให้เกิดความชื้น รา และกลิ่นไม่พึงประสงค์ในที่สุด และถ้าใช้สบู่ในปริมาณที่เข้มข้นเกินไป แทนที่จะได้เบาะผ้าที่สะอาด อาจเกิดคราบสบู่เป็นของแถม
หลังจากการทำความสะอาดเบาะทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นเบาะแบบไหน ให้เปิดประตูรถทิ้งไว้สักพัก แนะนำให้จอดกลางแจ้งเพื่อให้แดดส่องถึง จะช่วยให้เบาะแห้งสนิท (ควรทำในวันที่อากาศปลอดโปร่ง ลมเย็นสบาย ไม่ชื้น ไม่ร้อนมากเกินไป) ก่อนปิดกระจกรถอาจปิดท้ายด้วยการฉีดน้ำยาฆ่าเชื้อโรคทั่วห้องโดยสารอีกรอบก็ได้ เพื่อความมั่นใจไร้กังวลเรื่องโควิด
ที่สำคัญ อย่าลืมล้างมือทั้งก่อนและหลังการทำความสะอาด สวมถุงมือและหน้ากากตลอดเวลาขณะทำความสะอาดด้วย
หากทำครบทุกขั้นตอนและหมั่นรักษาความสะอาดเบาะและรถของคุณอยู่เสมอตามแนวคิดการใช้ชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) รับรองได้เลยว่าฝุ่นละออง คราบสกปรก กลิ่นไม่พึงประสงค์ เชื้อโรคร้าย รวมถึงโควิด-19 จะไม่มารบกวนอย่างแน่นอน