ก่อนที่คุณจะตัดสินใจเดินทางไปต่างประเทศในช่วงโควิด เราขอให้คุณเตรียมตัวเตรียมใจรับกับสภาพที่จะเกิดขึ้นในยุค New normal นั่นก็คือคุณจะต้องเจอกับด่านคัดกรองที่สนามบิน
ถึงแม้คุณจะผ่านด่านคัดกรองออกมาได้แต่เชื้อโควิดใช้เวลาฟักตัว 14 วัน เพื่อความปลอดภัยต่อตัวคุณเองและผู้อยู่รอบข้าง รวมไปถึงสำนึกรับผิดชอบต่อสังคม คุณควรเช็กอาการโควิดด้วยการการกักตัวเอง (self quanrantine) เป็นเวลา 14 วัน หากมีอาการก็ต้องรีบไปตรวจและรักษาโควิดโดยเร่งด่วน
6 ขั้นตอนคัดกรองหลังกลับจากต่างประเทศ
เพื่อเป็นการเฝ้าระวังอาการโควิด ทางกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขได้ให้ข้อกำหนดและข้อแนะนำสำหรับผู้เดินทางมาจากต่างประเทศมาดังนี้
รีบแจ้งทันทีที่คุณเดินทางถึงประเทศไทยแล้วมีอาการไอ เป็นไข้ มีน้ำมูก เจ็บคอ หายใจลำบาก หรือมีอาการอย่างใดอย่างหนึ่งให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ
วัดไข้ด้วยเครื่องเทอร์โมสแกน เจ้าหน้าที่จะวัดไข้ผู้ที่เดินทางกลับมาทุกคน หากมีไข้สูง เจ้าหน้าที่ก็จะซักประวัติเพิ่มเติมพร้อมให้คำแนะนำ หากอาการตามเกณฑ์ที่ควรเฝ้าระวัง ก็จะถูกส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล
กรอกแบบคำถามสุขภาพตามความเป็นจริง ใช้แบบฟอร์ม ต.8
กักตัว 14 วัน ผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ที่เป็นเขตติดโรคติดต่อหรือกลับจากพื้นที่ที่มีการระบาดต่อเนื่อง จะต้องได้รับการกักตัว
คนไทยสามารถไปกักตัวในที่พักของตัวเอง ส่วนชาวต่างชาติให้กักตัวในโรงแรม ที่รัฐบาลกำหนดไว้ โดยทุกวันจะต้องรายงานตัวกับเจ้าหน้าที่ตามช่องทางที่กำหนด หากมีอาการป่วยควรแจ้งเจ้าหน้าที่ภายใน 3 ชั่วโมง
การออกจากที่พักในระหว่างกักตัว ผู้ที่เดินทางจากพื้นที่มีการระบาดต่อเนื่อง สามารถขออนุญาตเจ้าหน้าที่หากมีความจำเป็นต้องออกจากที่พักหรือสถานที่กักตัว
ดูแลสุขภาพ สุขอนามัยและป้องกันตนเอง ผู้ที่เดินทางกลับจากเมืองนอกควรหลีกเลี่ยงการไปสถานที่แออัดและสถานที่เสี่ยง
หลักง่ายๆ ที่ใช้ได้ผลสำหรับวิธีป้องกันโควิดก็คือ กินร้อน ช้อนกลาง หมั่นล้างมือและใส่หน้ากากอนามัย
ตรวจอาการโควิดฟรีหรือไม่
ผู้ที่เดินทางกลับจากประเทศที่มีการแพร่ระบาดและมีอาการป่วย จำเป็นต้องได้รับการรักษาโควิด 19 สามารถตรวจฟรีได้ที่โรงพยาบาลตามสิทธิประกันสังคมหรือตามสิทธิในบัตรทอง
คิดให้ดีก่อนไปตรวจด้วยนะ
ถ้าไม่มีอาการป่วยหรือไม่ได้เดินทางกลับจากพื้นที่แพร่ระบาด ไม่มีความจำเป็นต้องตรวจ ดังเหตุผลต่อไปนี้นะจ๊ะ
ไหนจะเสียเงินฟรีแถมเจ็บตัวฟรีอีก การตรวจหาเชื้อมีค่าใช้สูงหลักพันบาทขึ้นไปและยังต้องเจ็บตัวอีกต่างหาก ควรรอจนกว่าจะมีอาการผิดปกติแล้วค่อยไปตรวจดีกว่า
เสียดายอุปกรณ์การตรวจ อุปกรณ์ เคมี น้ำยา ที่สถานพยาบาลต้องใช้ในการตรวจหาเชื้อโรค ก็จะสูญเสียไปอย่างไม่คุ้มค่าเท่าที่ควร อย่าเพิ่งใจร้อนไปเลย
แล้วยังมีความเสี่ยงรับเชื้อจากสถานตรวจโควิดหรือโรงพยาบาล หรืออาจนำเชื้อต่างๆ ไปติดผู้ที่มีร่างกายไม่แข็งแรงหรือผู้ป่วยได้ด้วย
สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด เพิ่มความเสี่ยงให้คนรอบข้าง หากผลตรวจครั้งแรกเป็นลบในตอนที่เชื้อยังไม่ฟักตัวและยังไม่มีอาการออกมา แล้วเรายังใช้ชีวิตปกติ ไม่ระวังตัวเอง ไม่รับผิดชอบต่อสังคม อาจกลายเป็นผู้แพร่เชื้อรายใหญ่อีกด้วย
แค่ 14 วัน! ป้องกันตัวเองและคนที่เรารักกันเถิด
การกักตัวเองหรือที่ชาว New normal รู้จักศัพท์คำว่า Self-quanrantine (เซลฟ์-ควอรันทีน) นั้น เป็นวิธีป้องกันโควิดในการเฝ้าระวังอาการที่ได้ผลมาก
ความจริงการกักตัวไม่ยากเลย คิดง่ายๆ ว่าเราหยุดงานหรือหยุดเรียนเพื่ออยู่บ้านช่วยประเทศชาติ ไม่ออกเดินทางไปไหน อาจใช้วิธี work from home หรือเรียนหนังสือผ่านระบบออนไลน์ รวมไปถึงซื้อของหรือสั่งอาหารออนไลน์
14 วิธีป้องกันโควิดในการกักตัว
แม้ว่าเราจะไม่มีไข้ ไม่แสดงอาการโควิด ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะปลอดจากการติดเชื้อไวรัสเสียทีเดียว
เรามาดูกันดีกว่าว่าการเก็บตัวอยู่ที่บ้าน ต้องทำอย่างไรบ้าง
ถ้ามีอาการโควิด จะติดต่อใคร
มีอาการไข้หลายวัน หรือมีอาการไอ จาม หายใจลำบากร่วมด้วย ให้รีบไปพบแพทย์หรือโทรศัพท์ไปยังสายด่วน 1422 ของกรมควบคุมโรคพร้อมแจ้งประวัติการเดินทางให้เจ้าหน้าที่ทราบด้วย
แต่ส่วนใหญ่ผู้ที่ติดเชื้อสามารถรักษาตัวให้หายเองได้ที่บ้าน โดยไม่ต้องเข้ารับการรักษาทางการแพทย์
เมื่อมีอาการผิดปกติได้แก่ เป็นไข้ ไอ จาม เจ็บคอ น้ำมูกไหล ปวดศีรษะ แน่นหน้าอก อ่อนเพลีย หายใจหอบ ยิ่งถ้าเดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง 6 ประเทศ (ข้อมูล ณ เวลาที่เขียน) ได้แก่ เกาหลี ญี่ปุ่น สิงคโปร์ อิหร่าน อิตาลีและจีน (รวมถึงฮ่องกงและไต้หวัน) ก็ต้องรีบไปเข้ารับการรักษาโควิด
เมื่อมีอาการโควิดและจำเป็นที่จะไปสถานที่ตรวจโควิด ก็ควรติดต่อกับแพทย์หรือเจ้าหน้าที่ห้องฉุกเฉินก่อนเดินทางและแจ้งว่าคุณอาจติดเชื้อโควิด การโทรศัพท์ไปแจ้งเช่นนี้จะช่วยให้เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ปกป้องตัวเองและผู้ป่วยอื่นได้ หากมีอาการฉุกเฉินมาก เช่น หายใจลำบาก แน่นหน้าอก ควรได้รับการดูแลทางการแพทย์อย่างเร่งด่วน
ไม่กักตัวได้หรือไม่
ตอบชัดๆ ตรงนี้ว่าไม่ได้เด็ดขาด ขอเน้นอีกครั้งว่าการกักตัวคือวิธีป้องกันโควิดที่ได้ผล
ผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศควรใช้จิตสำนึกสาธารณะ และปลุกความรับผิดชอบต่อสังคมออกมา การที่เรายอมลำบากตัวเองเพื่อให้สังคมสงบสุขเป็นสิ่งมีค่าเหลือคณา
การปกปิดข้อมูลการเดินทางไปต่างประเทศก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่จะทำให้สังคมวุ่นวาย ขอให้คิดง่ายๆ ว่า หากเราติดเชื้อมาแล้วไปแพร่เชื้อให้ผู้อื่น ผู้นั้นก็จะไปแพร่เชื้อต่อไม่มีวันสิ้นสุด
หยุดบูลลี่ สังคมจะดีขึ้นอีกเยอะ
มีกรณีเกิดขึ้นในสังคมที่ผู้ที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ ถูกต่อว่าด่าทอและใช้คำเรียกขานแบบเหยียดหยาม
เราจึงควรเตือนตัวเองและคนรอบข้างให้หยุดใช้คำพูดบูลลี่ทั้งต่อหน้าและลับหลังโดยเฉพาะไซเบอร์บูลลี่ (Cyberbully) ในโลกโซเชียลมีเดีย ควรจะมองด้วยเมตตาไม่ใช่มองว่าเป็นตัวพาเชื้อโรคเข้ามา
การเอื้ออาทรและเอาใจเขามาใส่ใจเรา จะทำให้เราทุกคนปลอดเชื้อไปด้วยกัน
แค่หยุดบูลลี่ สังคมก็ดีขึ้นแยะ จริงๆ นะ
เผยแพร่ครั้งแรก 1 ตุลาคม 2020