ถึงแม้เครื่องซักผ้าแบบอัตโนมัติจะทำความสะอาดผ้าได้อย่างรวดเร็วและสะดวกสบายกว่า แต่การซักผ้าด้วยมือนั้นก็ยังเป็นหนึ่งในวิธีทำความสะอาดผ้าที่ดีและปลอดภัยสำหรับเสื้อผ้าของคุณอยู่เสมอ หากคุณมีปัญหากับคราบฝังแน่นหรืออยากรู้เคล็ดลับในการซักเสื้อผ้าให้สะอาดและคงสีสันสดใสแล้ว เราได้รวบรวมเคล็ดลับดีๆ เพื่อช่วยให้คุณซักผ้าด้วยมือให้สะอาดที่สุด นอกจากนี้เรายังมีเคล็ดลับพิเศษเกี่ยวกับการใช้เครื่องซักผ้าที่จะช่วยคุณในการทำความสะอาดเสื้อผ้าอีกด้วย
ก่อนการซักมือด้วย บรีส เพาเวอร์ คุณควรติดกระดุมและรูดซิปเสื้อผ้าให้เรียบร้อยเพื่อป้องกันไม่ให้เสื้อผ้าเสียหายหรือย้วยยานขณะซัก
การทำความสะอาดเสื้อผ้าโดยไม่ใช้เครื่องซักผ้า
จุดประสงค์หลักของการใช้เครื่องซักผ้าคือการประหยัดเวลาในการทำความสำอาดเพราะในช่วง ‘การปั่นผ้า’ นั้น ทั้งน้ำสกปรกและผงซักฟอกจะถูกชะล้างออกไปพร้อมๆ กัน ซึ่งเป็นขั้นตอนที่คุณไม่สามารถทำได้ด้วยการซักผ้าด้วยมือ แต่ผงซักฟองอย่าง บรีส เพาเวอร์ สูตรมาตรฐาน สามารถช่วยคุณได้ เพราะบรีสเป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีสูตรเฉพาะ ที่สามารถช่วยให้ผ้าขาวด้วยเม็ดคริสตัลบีดส์ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความหอมจากดอกไม้นานาพันธุ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การซักผ้าด้วยมือจะช่วยให้คุณทำความสะอาดเน้นที่คราบสกปรกนั้นๆ ที่ตรงจุดมากกว่า และการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดอย่าง บรีส เอกเซล ชนิดน้ำ ป้ายลงบนคราบเปื้อนก่อนซักจะยิ่งช่วยให้คราบสกปรกหลุดง่ายขึ้นเมื่อขยี้ผ้า
เคล็ดลับ:
ใช้อุณหภูมิน้ำที่เหมาะสม เมื่อซักผ้าด้วยมือ โดยคุณควรใช้น้ำอุ่น เพราะน้ำร้อนอาจทำให้ผ้าหดได้ และน้ำที่เย็นเกินไปจะทำให้คราบสกปรกซักออกยากขึ้น
แยกผ้าสีและผ้าขาวออกจากกัน เพราะถึงแม้คุณจะซักผ้าด้วยมือในปริมาณที่น้อยกว่าการซักด้วยเครื่อง แต่การซักมือก็ยังเสี่ยงต่อผ้าตกสีได้ ดังนั้นคุณควรแยกผ้าสีและผ้าขาวออกจากกัน รวมไปถึงแยกผ้าแบ่งเป็นเนื้อผ้าชนิดต่างๆ ด้วย
ทำผ้าให้แห้งมากที่สุด โดยหลังจากคุณบิดผ้าจนหมาดแล้ว ซับน้ำที่เหลือออกด้วยผ้าเช็ดตัว จากนั้นตากบนราวหรือแขวนด้วยไม้แขวนเพื่อตากผ้าให้แห้งสนิท
อย่าลืม:
อ่านฉลากบนผลิตภัณฑ์ซักผ้าเพื่อดูปริมาณการใช้ที่เหมาะสมก่อนเสมอ
ข้อดีของการซักผ้าด้วยเครื่อง
ถึงแม้คุณจะสามารถทำความสะอาดเสื้อผ้าโดยไม่ใช้เครื่องซักผ้าได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณซักผ้าด้วยมือเป็นประจำอยู่แล้ว แต่เครื่องซักผ้าก็มีข้อดีหลายอย่างที่อาจทำให้คุณเปลี่ยนใจมาใช้เครื่องซักผ้าแทนในอนาคต และคุณก็ไม่จำเป็นจะต้องซื้อเครื่องซักผ้าแบบอัตโนมัติ เพราะคุณสามารถเลือกใช้เครื่องซักผ้าประเภทอื่นๆ ได้
ด้านล่างคือเครื่องซักผ้า 2 ประเภท รวมไปถึงข้อดีของเครื่องซักผ้าประเภทต่างๆ
เครื่องซักผ้าฝาบน:
เครื่องซักผ้าฝาบนมักเป็นเครื่องซักผ้าแบบกึ่งอัตโนมัติ ดังนั้น คุณจำเป็นต้องเติมน้ำก่อนการทำความสะอาด และเติมน้ำอีกครั้งก่อนล้างผงซักฟอกออก ดังนั้นหากคุณใช้เครื่องซักผ้าฝาบน คุณต้องลงมือหลายขั้นตอนมากกว่าการใช้เครื่องแบบฝาหน้า แต่เครื่องซักผ้าฝาบนนั้นมีราคาถูกกว่ามาก เพื่อช่วยทุ่นเเรงในการทำความสะอาด เลือกใช้ผงซักฟอกที่มีประสิทธิภาพในการทำความสะอาดอย่าง บรีส เอกเซล แล้วตั้งค่ารูปแบบการซักที่เหมาะสม แค่นี้การซักผ้าด้วยเครื่องซักผ้าฝาบนก็ไม่มีอะไรยุ่งยากอีกต่อไป
เครื่องซักผ้าฝาหน้า:
เครื่องซักผ้าแบบฝาหน้าเป็นเครื่องแบบอัตโนมัติ จึงช่วยให้คุณซักผ้าได้อย่างสะดวกสบาย เพราะเครื่องจะทำทุกขั้นตอนแทนคุณ เครื่องซักผ้าฝาหน้านั้นมีราคาแพงกว่า แต่ก็มีอายุการใช้งานที่นานกว่า
วิธีการใช้เครื่องซักผ้า
หากคุณต้องการเปลี่ยนจากการซักผ้าด้วยมือมาใช้เครื่องซักผ้าแทน ลองทำตามขั้นตอนการใช้เครื่องซักผ้า ที่เรารวบรวมไว้ด้านล่างนี้:
เครื่องซักผ้าแบบอัตโนมัติ
ใส่ผ้าสกปรกลงในเครื่องซักผ้า ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่ใส่ผ้าเยอะจนเกินไป เติมผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดลงในช่องใส่ผงซักฟอก หรือใส่ในถังซักโดยตรง จากนั้นเลือกวิธีการซักที่เหมาะสม และกดปุ่มซัก เครื่องซักผ้าจะทำทุกขั้นตอนโดยอัตโนมัติ เพียงแต่คุณควรตรวจสอบให้แน่ใจว่า คุณได้ทำตามขั้นตอนที่ระบุไว้ในคู่มือการใช้เครื่องซักผ้าและใช้ปริมาณผงซักฟอกที่เหมาะสม
เครื่องซักผ้าแบบกึ่งอัตโนมัติ
หากใช้เครื่องซักผ้าแบบกึ่งอัตโนมัติ ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
ใส่ผ้าสกปรกและผงซักฟอกลงในถังซักผ้า โดยใช้ในปริมาณที่เมหาะสมที่ได้ระบุไว้บนฉลากผลิตภัณฑ์
เติมน้ำลงในถังซัก โดยสามารถดูปริมาณการใส่น้ำที่เหมาะสมได้ในคู่มือการใช้เครื่องซักผ้า
จากนั้นกดปุ่มซัก
เมื่อการซักผ้าเสร็จสิ้น ใช้สายยางดูดน้ำสกปรกออก จากนั้นเติมน้ำสะอาด และกดปุ่มล้างผ้าให้สะอาด
เมื่อผ้าสะอาดแล้ว คุณต้องปั่นผ้าให้แห้งมากที่สุดเท่าที่ทำได้ โดยนำผ้าออกจากถังซักไปใส่ไว้ที่ถังปั่นและกดเลือกเวลาปั่นที่เหมาะสมซึ่งจะขึ้นอยู่กับปริมาณผ้าของคุณ
ไม่ว่าคุณจะเปลี่ยนใจมาใช้เครื่องซักผ้า หรือจะยังซักผ้าด้วยมือตามเดิม ลองอ่านบทความเกี่ยวกับการซักผ้าเพิ่มเติมได้ ที่นี่
เลือกใช้ผงซักฟอกสำหรับการซักมือโดยเฉพาะ
แช่เสื้อผ้าในน้ำอย่างน้อย 30 นาทีเพื่อช่วยให้คราบสกปรกหลุดออกง่ายขึ้น
บิดน้ำที่เหลือออก ก่อนซับผ้าให้แห้งด้วยผ้าเช็ดตัว