เราขอยืนยันตรงนี้เลยว่า ผงซักฟอกฆ่าเชื้อโควิด-19 ได้ เพียงแต่ต้องรู้จักวิธีใช้ผงซักฟอกให้ถูกต้อง การซักผ้าไม่ถูกวิธีอาจแพร่เชื้อโรคได้ อย่างที่เรารู้ๆ กันว่า ฝอยละอองจากการไอหรือจามและการสัมผัสพื้นผิวเป็นต้นตอที่จะแพร่เชื้อโควิด-19 แต่เราต้องไม่ลืมว่าเชื้อไวรัสตัวร้ายยังสามารถติดต่อผ่านทางเสื้อผ้าได้ด้วย ดังนั้นการซักผ้าฆ่าเชื้อโรคจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก
มีสารอะไรบ้างที่ฆ่าเชื้อไวรัสโควิดได้
คำถามนี้ก็เป็นอีกหนึ่งคำถามคาใจใครหลายๆ คน เราจึงขอนำคำตอบจากผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยา ไบโอเทค สวทช. ที่ออกมายืนยันว่าสบู่ ยาสระผม แอลกอฮออล์ (70%) และผงซักฟอกสามารถฆ่าเชื้อไวรัสวายร้ายได้
คู่มือใช้ผงซักฟอกฆ่าเชื้อ เพื่อกำราบให้สิ้นซาก
ต่อให้เราล้างมือด้วยสบู่ให้สะอาด ใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า รักษาระยะห่าง 2 เมตร แล้วก็ตาม แต่ถ้าไม่ใช้ผงซักฟอกฆ่าเชื้อในเสื้อผ้า เจ้าเชื้อโรคตัวแสบก็จะแอบเข้ามาทำร้ายเราจนได้ เพราะเสื้อผ้าคือด่านนอกที่จะสัมผัสเชื้อโรคได้ง่ายๆ
ควรซักเสื้อผ้าทุกวัน แทนที่จะทิ้งหรือหมกผ้าไว้ในตะกร้ารอซัก เพราะเชื้อไวรัสอาจเติบโตและแพร่กระจายได้รวดเร็ว
เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค ควรซักด้วยผงซักฟอกหรือน้ำยาซักผ้าในน้ำอุณหภูมิสูง 70-90 องศาเซลเซียส หลังจากนั้นนำผ้าไปตากแดดให้แห้ง
ควรซักผ้าเช็ดตัวแยกจากเสื้อผ้าประเภทอื่นๆ เนื่องจากผ้าขนหนูมักมีความชื้น ซึ่งเป็นต้นเหตุทำให้เชื้อโรคเติบโตและคงอยู่ได้นานขึ้น ควรซักผ้าเช็ดตัวที่อุณหภูมิ 70 องศาเซลเซียส
ห้ามสะบัดผ้าที่สวมใส่แล้วโดยเฉพาะชุดที่ใส่ไปข้างนอกมา เพราะเชื้อไวรัสสามารถแพร่กระจายในอากาศ
ผงซักฟอกสำหรับฆ่าเชื้อเสื้อผ้าชุดเครื่องนอน เช่น หมอน ผ้าห่ม ผ้าปูที่นอน ผ้าม่าน ควรตั้งค่าเป็นน้ำร้อนในเครื่องซักผ้าหรือผสมน้ำอุณหภูมิ 70 องศาเซลเซียล และซักไม่ต่ำกว่า 25 นาที (ตามข้อมูลจากกรมควบคุมโรค)
นอกจากนี้ ต้องล้างมือด้วยสบู่ให้สะอาดทุกครั้งก่อนและหลังหยิบจับเสื้อผ้าใช้แล้ว เพราะอาจขาดสตินำมือมาสัมผัสใบหน้า
จำเป็นต้องแยกกันซักผ้าฆ่าเชื้อโรคหรือไม่
ไม่จำเป็น คุณสามารถนำเสื้อผ้ามาซักร่วมกันได้ ผงซักฟอกสามารถทำความสะอาดและไม่เกิดการแพร่เชื้อโรคได้ นี่คือคำตอบจากผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
ไม่ต้องกังวลใจหากกลับบ้านค่ำ หรือต้องซักชุดออกกำลังกายจากการเข้าฟิตเนสหลังเลิกงาน เราได้รวมทิปส์ดีๆ ในการซักผ้ากลางคืนไว้ให้คุณด้วย นอกจากนี้ควรซักหน้ากากผ้าและผ้าปิดปากด้วยผงซักฟอกหรือน้ำยาซักผ้าเพื่อฆ่าเชื้อโรค
กัดได้ก็แก้ได้ ! 4 วิธีดีๆ ป้องกันผงซักฟอกกัด
วิธีใช้ผงซักฟอกที่ถูกต้องเพื่อป้องกันหรือแก้อาการแพ้ผงซักฟอก มีดังนี้
หยุดใช้ผงซักฟอกที่ทำให้เกิดการแพ้และเปลี่ยนมาใช้ผลิตภัณฑ์สูตรอ่อนโยนแทน
หลีกเลี่ยงการสัมผัสผงซักฟอกโดยตรง ควรใส่ถุงมือพลาสติกหรือถุงมือพีวีซี ไม่ควรใช้ถุงมือลาเท็กซ์ และไม่ควรใส่ถุงมือนานเกิน 20 นาที เพราะจะทำให้เกิดความอับชื้นหรือระคายเคือง ข้อควรระวังคือ ต้องเปลี่ยนถุงมือเมื่อด้านในเปียกชื้น
หลังซักผ้า ควรล้างมือด้วยน้ำเย็นและสบู่สูตรอ่อนโยน แล้วเช็ดมือให้แห้ง ไม่ให้มีน้ำตกค้างตามซอกนิ้ว
เลือกสวมใส่เสื้อผ้าที่เนื้อโปร่งสบาย ระบายอากาศได้ง่าย เช่น ผ้าฝ้าย หลีกเลี่ยงผ้าเนื้อหนาและหยาบกระด้าง เพื่อลดการเสียดสีกับผิวหนัง แลหากม ีผื่นขึ้น ควรหลีกเลี่ยงการเกา ซึ่งอาจทำให้เกิดการติดเชื้อ
อย่าเพิ่งท้อใจหากคุณแพ้ผงซักฟอก เพียงแค่ใส่ใจและหาผลิตภัณฑ์สูตรอ่อนโยนตามแบบฉบับของ ‘คนขี้แพ้ ก็ต้องดูแลตัวเอง’ รับรองว่าปัญหานี้จะไม่มากวนใจคุณอีก
อย่าใช้ อย่าแชร์! น้ำยาฆ่าเชื้อเถื่อน
จากที่เป็นข่าวว่ามีการนำน้ำยาฆ่าเชื้อโรคมาแบ่งขาย สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาได้ออกประกาศว่า เป็นเรื่องที่ต้องระวังให้ดีๆ ขอให้ตรวจสอบที่มาก่อนซื้อหรือนำไปใช้ โดยเฉพาะตรวจว่ามีฉลากการใช้ที่ถูกต้องหรือไม่ เช่น ระบุชื่อ ระบุวิธีการใช้ที่ถูกต้อง ควรเช็กวิธีเลือกผลิตภัณฑ์ซักผ้าให้รอบคอบ
นอกจากนี้ มีการแชร์ทางออนไลน์เกี่ยวกับอุโมงค์ฆ่าเชื้อ ซึ่งกรมควบคุมโรคก็ได้ออกมาแนะนำชัดเจนแล้วว่า แค่ผงซักฟอกก็เพียงพอต่อการทำความสะอาดแล้ว ไม่ต้องฉีดพ่นสารใดๆ เข้าสู่ผิวหนัง
สำหรับบ้านที่มีเด็ก ควรเก็บน้ำยาฆ่าเชื้อโรคหรือน้ำยาซักผ้าให้ห่างไกลเด็ก เพราะเด็กอาจคิดว่าเป็นน้ำและดื่มเข้าไปจนเกิดอันตรายตามที่เคยปรากฎในข่าว
วิธีการฆ่าเชื้อโรคที่เรียบง่ายและได้ผลดีที่สุด ก็คือ ใช้น้ำสบู่ล้างมือบ่อยๆ และเมื่อกลับเข้าบ้าน ควรรีบทำความสะอาดร่างกาย อาบน้ำและสระผม รวมทั้งซักผ้าฆ่าเชื้อโรคในทันที
เพียงเท่านี้โควิดก็จะไม่กลายมาเป็น “โคขวิด” ให้ลำ บากใจอีกต่อไป