เราใช้เวลาส่วนใหญ่ในแต่ละวันอยู่บนเตียงนอน นอกจากเวลานอนหลับพักผ่อนปกติแล้ว ในวันหยุดสุดสัปดาห์เราก็มักจะถือโอกาสนอนเล่นโทรศัพท์มือถือกันต่อแม้จะตื่นนอนแล้วก็ตาม ดังนั้น การรักษาเครื่องนอนให้สะอาดอยู่เสมอจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะช่วยให้ทุกช่วงเวลาบนเตียงนอนมีแต่ความสุขและการผ่อนคลาย เราจึงรวบรวมวิธ ีซักหมอน และการซักผ้านวม รวมไปถึงข้อแนะนำสำหรับคนที่กำลังสงสัยว่าควรซักผ้าปูที่นอนบ่อยแค่ไหนทางด้านล่างนี้
เครื่องนอนเป็นสิ่งที่ไม่ได้นำมาซักกันบ่อยๆ ดังนั้นควรเลือกผงซักฟอกที่มีคุณสมบัติในการกำจัดสิ่งสกปรกได้ล้ำลึก เช่น โอโม เพื่อให้เครื่องนอนของคุณสะอาดหมดจด และสร้างความรู้สึกผ่อนคลายยามนอนหลับ
วิธีซักหมอน
ตรวจสอบก่อนว่าหมอนของคุณทำจากวัสดุประเภทไหน และสามารถซักด้วยเครื่องซักผ้าได้หรือไม่ หากเป็นหมอนที่ทำจากนุ่นหรือฟองน้ำ ไม่ควรนำไปซัก แต่ควรนำไปผึ่งแดดแทน และที่สำคัญต้องตรวจสอบว่าหมอนชำรุดหรือไม่ก่อนซักทุกครั้ง หากหมอนมีคราบเหลืองหรือเปื้อนสิ่งสกปรก ให้ใช้น้ำยาซักผ้าป้ายบริเวณนั้นก่อนแล้วทิ้งไว้ 15 นาทีก่อนนำไปซัก
ซักหมอนด้วยน้ำอุ่นประมาณ 40 องศาเซลเซียสขึ้นไป เพราะจะช่วยฆ่าเชื้อโรคและขจัดสิ่งสกปรกบนหมอนได้ดี เมื่อซักเสร็จตบหมอนให้เข้ารูปเพื่อจัดรูปทรงก่อน ทั้งนี้ วิธีซักหมอนให้นุ่มด้วยเครื่องซักผ้านั้น สามารถทำได้โดยการใส่ลูกเทนนิสเข้าไปในถังซักด้วยเพื่อช่วยให้ไส้หมอนที่จับตัวเป็นก้อนกลับมาฟูดังเดิมหลังซักเสร็จ
อบหมอนด้วยเครื่องอบผ้าที่ความร้อนระดับปานกลาง แต่ถ้าไม่มีเครื่องอบผ้า การนำไปตากในที่ที่แสงแดดส่องถึงก็เพียงพอแล้ว ก่อนเก็บหรือนำหมอนมาใช้งานอีกครั้งต้องตรวจสอบว่าแห้งสนิทแล้วจริงๆ เพื่อป้องกันกลิ่นเหม็นอับและเชื้อรา
วิธีการซักผ้านวม
หากมีฉลากกำหนดวิธีการซักผ้านวมให้ปฏิบัติตามนั้นให้ถูกต้อง และกำจัดคราบสกปรกก่อนซักทุกครั้ง
หากซักผ้าห่มนวมใหญ่ด้วยเครื่องซักผ้า คุณต้องแยกผ้านวมจากผ้าชิ้นอื่นๆ เพราะจะทำให้การซักผ้าชิ้นอื่นๆ ที่อยู่ในถังซักเดียวกันไม่สะอาดเท่าที่ควร และควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าเป็นเครื่องซักผ้านวมขนาดใหญ่ได้ คุณควรม้วนผ้านวมก่อนใส่เข้าเครื่องซักผ้า ผ้านวมของคุณจะสะอาดมากขึ้นเพราะการม้วนผ้าให้มีขนาดเล็กลงจะช่วยให้มีพื้นที่ในการปั่นมากขึ้น และช่วยให้ผงซักฟอกเข้าถึงเนื้อผ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เมื่อซักเสร็จแล้วให้สะบัดผ้าห่มเพื่อไม่ให้ผ้านวมยับและวัสดุที่เป็นไส้ข้างในจับตัวกันเป็นก้อน นำเข้าเครื่องอบผ้าหรือตากในที่ที่มีแสงแดดส่องถึง และเช่นเดียวกับหมอน ให้ตรวจสอบว่าผ้านวมแห้งสนิทแล้วก่อนนำกลับมาใช้งานอีกครั้ง
การซักผ้าปูที่นอน
ผ้าปูที่นอนที่เพิ่งแกะออกจากห่อใหม่ๆ อาจมีกลิ่นหรือสีติดมาจากกระบวนการผลิต การซักผ้าปูที่นอนครั้งแรกจึงเป็นสิ่งสำคัญ วิธีซักผ้าปูที่นอนใหม่ทำได้ง่ายๆ เพียงแค่แช่ผ้าด้วยน้ำที่ผสมผงซักฟอกไม่เกิน 5 นาทีและซักต่อด้วยน้ำสะอาด หรือซักด้วยน้ำธรรมดาเพียงอย่างเดียวหากกลัวสีผ้าซีดจากการใช้ผงซักฟอก และอาจจะผสมน้ำยาฆ่าเชื้อด้วยก็ได้ เพื่อช่วยขจัดเชื้อโรคที่อาจติดมาจากกระบวนการผลิต
ส่วนวิธีซักผ้าปูที่นอนที่ใช้แล้ว ให้แช่ในน้ำผสมผงซักฟอกที่มีประสิทธิภาพในการขจัดคราบประมาณ 5-10 นาที และตรวจหาคราบหรือสิ่งสกปรกที่มองเห็นชัดด้วยตาเปล่าเพื่อกำจัดออกทุกครั้งก่อนการซักด้วยน้ำยาขจัดคราบหรือน้ำยาซักผ้า และเช่นเดียวกับผ้านวม ให้ซักผ้าปูที่นอนแยกจากผ้าชิ้นอื่นๆ เพื่อป้องกันผ้าปูที่นอนเสียหาย อีกทั้งยังเป็นวิธีซักผ้าปูที่นอนไม่ให้สีตกใส่ผ้าชิ้นอื่นๆ หรือป้องกันไม่ให้สีผ้าชิ้นอื่นตกใส่ผ้าปูที่นอนผืนโปรดของคุณได้ด้วย
เมื่อซักเสร็จแล้ว ให้นำผ้าปูที่นอนไปผึ่งแดด หลีกเลี่ยงที่ที่มีแดดจัด เพราะเส้นใยของผ้าปูที่นอนที่บอบบางอาจเสื่อมสภาพได้ เมื่อแห้งสนิทดีแล้วจึงสามารถนำมาใช้ได้
ช่วงเวลาที่คุณใช้บนเตียงนอน ไม่ว่าจะเป็นการนอนหลับพักผ่อนหรือนอนเล่นจะเต็มไปด้วยความสุขและผ่อนคลาย เพียงคุณปฏิบัติตามวิธีซักหมอน วิธีการซักผ้านวม และการซักผ้าปูที่นอนที่เราแนะนำไป อาจจะเหนื่อยตอนลงมือทำสักนิด แต่รับรองว่าคุ้มค่าแน่นอน
_* ควรซักผ้าปูที่นอนบ่อยแค่ไหน เป็นคำถามที่หลายคนสงสัย จริงๆ แล้วคุณควรซักผ้าปูที่นอนรวมถึงปลอกหมอนสัปดาห์ละครั้งหรือสองสัปดาห์ครั้ง เพื่อความสะอาดให้ถูกสุขลักษณะ ส่วนการซักหมอนและการซักผ้านวมนั้นควรซัก 1-3 เดือน/ครั้ง
หลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาฟอกขาว (บลีช) เพราะจะทำให้เส้นใยของเครื่องนอนถูกทำลายและเสื่อมสภาพเร็ว ใช้แค่ผลิตภัณฑ์ซักผ้าธรรมดาก็เพียงพอแล้ว
เครื่องนอนที่ซักแล้วต้องนำไปตากในที่ที่แสงแดดส่องถึงทุกครั้งเพื่อป้องกันกลิ่นอับชื้นและเชื้อรา และต้องแน่ใจว่าแห้งสนิทแล้วถึงนำมาเก็บหรือกลับมาใช้งาน_