เสื้อแจ็คเก็ตหนังเป็นอะไรที่ไม่ตกเทรนด์ง่ายๆ และสามารถหยิบมาใส่ได้หลายโอกาส ยิ่งถ้าจับคู่กับยีนส์ดีๆ สักตัว ยิ่งเท่ไปใหญ่ แต่มีข้อจำกัดด้านการดูแลรักษาที่ต้องใส่ใจกันเป็นพิเศษ ด้วยเพราะทำมาจากวัสดุประเภทที่คุณไม่สามารถโยนลงเครื่องซักผ้าแล้วกดปุ่มซักอัตโนมัติได้เหมือนเสื้อผ้าทั่วไป การส่งไปร้านซักแห้งเป็นทางเลือกที่ให้ความสะดวก แต่ถ้าคุณอยากประหยัดเงินในกระเป๋า เรามีวิธีซักเสื้อแจ็คเก็ตหนังที่แสนจะง่ายดายและคุณทำได้เองที่บ้าน รับรองว่าเสื้อแจ็คเก็ตหนังตัวเก่งของคุณจะสวยสะอาด ดูดีไปอีกนาน ทำอย่างไรได้บ้าง ไปดูกันเลย
วิธีซักเสื้อแจ็คเก็ตหนังแบบง่ายๆ ในเบื้องต้น
อันดับแรก ควรอ่านป้ายสัญลักษณ์การดูแลรักษาเสียก่อนว่าเสื้อแจ็คเก็ตหนังของคุณทำจากหนังชนิดไหน เป็นหนังเทียมหรือหนังแท้ (ส่วนใหญ่จะเป็นหนังวัว หนังแกะ หรือหนังจระเข้) และมีวิธีทำความสะอาดอย่างไรได้บ้าง แม้ส่วนใหญ่จะแนะนำให้ส่งซักแห้ง แต่ก็มีทางเลือกอื่นๆ ให้คุณด้วยเช่นกัน
เริ่มด้วยการทำความสะอาดเฉพาะจุด
ถ้าเป็นรอยเปื้อนหรือคราบสกปรกเพียงเล็กน้อย เลือกทำความสะอาดเฉพาะจุดจะดีกว่าส่งเสื้อทั้งตัวไปร้านซักแห้งให้สิ้นเปลืองเงินโดยใช่เหตุ จำไว้เสมอว่า ถ้ามีอะไรหกเลอะบนเสื้อแจ็คเก็ตหนังของคุณ อย่างเช่น ไวน์แดง กาแฟ หรือน้ำผลไม้ ให้รีบทำความสะอาดทันทีหรือเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะหนังเป็นวัสดุที่มีรูพรุนและพร้อมจะดูดซับของเหลวที่ซึมเข้าไป ถ้าทิ้งไว้นานอาจก่อเกิดคราบสกปรกแบบถาวรได้
ควรทดสอบดูก่อนว่าหนังชนิดไหนสามารถทำความสะอาดเฉพาะจุดด้วยน้ำได้บ้าง โดยหาจุดที่ไม่สะดุดสายตาบนเสื้อ หยดน้ำลงไปสัก 2-3 หยด ถ้าน้ำที่หยดลงไปเป็นเม็ดเล็กๆ อยู่บนหนัง นั่นแสดงว่าแจ็คเก็ตหนังตัวนั้นสามารถใช้ผ้าเปียกเช็ดได้ แต่ถ้าพบว่าหยดแล้วน้ำซึมเข้าไปในตัวหนัง คุณควรเปลี่ยนไปทำความสะอาดด้วยผ้าแห้งจะปลอดภัยต่อหนังมากกว่า
วัสดุและอุปกรณ์ที่ต้องใช้
น้ำอุ่น
น้ำส้มสายชู (ถ้ามี)
ภาชนะสำหรับใส่ส่วนผสม
ผ้าเนื้อนุ่มหรือฟองน้ำ และผ้าขนหนู
ราวแขวนเสื้อและไม้แขวน
ระยะเวลาที่ใช้
ขึ้นอยู่กับขนาดพื้นที่ของรอยเปื้อน ถ้าเป็นรอยเปื้อนเล็กน้อย จะใช้เวลาไม่เกิน 2-3 นาที
วิธีการ
แขวนเสื้อบนราวแขวน สำรวจว่ามีรอยเปื้อนตรงจุดไหนบ้าง
ผสมน้ำยาล้างจานกับน้ำอุ่นในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่ต้องเข้มข้นมาก
ใช้ผ้าหรือฟองน้ำชุบสารละลายที่เตรียมไว้ แล้วบีบน้ำออกให้เหลือพอหมาดๆ จากนั้นนำผ้าไปเช็ดรอยเปื้อนบนเสื้อ
ถ้ายังมีคราบหลงเหลือ ให้ผสมน้ำส้มสายชูกับน้ำในอัตราส่วน 1:1 ใช้ผ้าหรือฟองน้ำชุบสารละลายแล้วบีบน้ำออกให้เหลือพอหมาดๆ จากนั้นนำไปเช็ดที่รอยเปื้อนอีกรอบ
ใช้ผ้าขนหนูซับน้ำออกจากหนังบริเวณที่ทำความสะอาด แขวนทิ้งไว้ในที่แห้งและอากาศถ่ายเท เพื่อให้ความชื้นระเหยแห้งไปตามธรรมชาติ
ลงมือทำความสะอาดแจ็คเก็ตหนังทั้งที นอกจากจุดที่มีรอยเปื้อนแล้ว แนะนำให้คุณใช้ผ้าหรือฟองน้ำชุบสารละลายแล้วบิดหมาดๆ ค่อยๆ เช็ดฝุ่นหรือสิ่งสกปรกออกจากเสื้อให้ทั่ว โดยเฉพาะบริเวณคอเสื้อและแขนเสื้อ
สะอาดนอกแล้วต้องสะอาดในด้วย
ด้านในของเสื้อแจ็คเก็ตหนัง แม้ไม่ได้เอาออกไปโชว์ให้ใครดู แต่จุดบอดของมันมักจะเป็นเรื่องกลิ่นไม่พึงประสงค์ โดยเฉพาะกลิ่นเหงื่อจากรักแร้และที่อื่นๆ ซึ่งมักก่อตัวเป็นกลิ่นเหม็นอับสะสมที่คุณเองอาจจะชิน แต่คนที่อยู่รอบข้างคงไม่รู้สึกเช่นนั้นเป็นแน่
5 ขั้นตอนทำความสะอาดด้านในของเสื้อแจ็คเก็ตหนัง
ขั้นแรก กลับเสื้อจากด้านในมาด้านนอก แขวนไว้ที่ราวแขวน
ใช้ผ้าหรือฟองน้ำชุบสารละลายแล้วบีบน้ำออกให้เหลือพอหมาดๆ จากนั้นนำไปเช็ดที่รอยเปื้อน เช่นเดียวที่ทำกับเสื้อด้านนอก
เน้นบริเวณแขนเสื้อและใต้รักแร้เป็นพิเศษ
ปล่อยให้เสื้อแห้งเองตามธรรมชาติ โดยแขวนไว้ในที่แห้งและอากาศถ่ายเท
เมื่อแน่ใจว่าแห้งดีแล้ว อาจใช้สเปรย์ปรับอากาศฉีดถ้าคุณต้องการให้เสื้อมีกลิ่นหอมน่าสวมใส่ยิ่งขึ้น
เช่นเดียวกับการทำความสะอาดด้านนอก การทำความสะอาดด้านในใช้เวลาเพียง 2-3 นาที ยกเว้นกรณีที่มีคราบฝังแน่น คุณอาจต้องใช้เวลาจัดการและเทคนิคที่ซับซ้อนกว่านี้
จัดการงานยากด้วยของใช้ใกล้ตัว
บางครั้งคุณอาจต้องเจอกับงานยากอย่างคราบซอสมะเขือเทศที่ได้มาจากปาร์ตี้บาบีคิวที่บ้านเพื่อน รอยเปื้อนหมึกขณะแจกลายเซ็น หรือเดินๆ อยู่ก็มีอุจจาระนกตกลงมาโดนเสื้อ ซึ่งคราบพวกนี้กำจัดออกค่อนข้างยาก ดังนั้น ยิ่งทำความสะอาดได้เร็วเท่าไหร่ยิ่งดี
แต่ก็ไม่ใช่ว่าสถานการณ์จะเอื้อให้คุณทำอย่างนั้นทุกครั้งไป หากจำใจต้องทิ้งคราบนั้นไว้จนแห้งเกรอะแล้วค่อยมาทำความสะอาดทีหลัง อย่าเพิ่งหมดหวัง เรายังมีทางออก
ยาสีฟันก็สลายคราบบนหนังได้
ใช้นิ้วป้ายยาสีฟันลงบนคราบ (แนะนำให้ใช้ชนิดที่ไม่ใช่เนื้อเจล และใช้เพียงเล็กน้อย) จากนั้นใช้ผ้าเนื้อนุ่มค่อยๆ เช็ดวนจนคราบหลุดออก ห้ามถู เพราะจะทำให้หนังเป็นรอยหรือสีหลุดลอก จากนั้นใช้ฟองน้ำนิ่มๆ ชุบน้ำแล้วบิดพอหมาดๆ เช็ดวนอีกรอบ ทำซ้ำจนแน่ใจว่าคราบออกหมด จากนั้นใช้ผ้าแห้งซับน้ำออก
ขจัดคราบหมึกด้วยน้ำยาล้างเล็บ
ทำความสะอาดรอยเปื้อนหมึกออกจากหนังโดยใช้ก้านสำลีชุบน้ำยาล้างเล็บไปป้ายตรงจุดที่มีรอยเปื้อน อย่าถูแรง เพราะรอยเปื้อนหมึกจะขยายวงออกไปอีก ให้ค่อยๆ ปัดให้รอยเปื้อนจางไป เช็ดอีกรอบด้วยผ้าชุบน้ำหมาดๆ แล้วซับด้วยผ้าขนหนูจนแห้ง
เบกกิ้งโซดาหรือแป้งข้าวโพดช่วยขจัดคราบมัน
ถ้าเสื้อแจ็คเก็ตหนังของคุณเปื้อนน้ำมันหรือมีคราบมันติดอยู่ ให้ใช้เบกกิ้งโซดาหรือแป้งข้าวโพดโรยตรงรอยเปื้อน ถูเบาๆ ด้วยผ้าชุบน้ำหมาดๆ แล้วทิ้งไว้สัก 2-3 ชั่วโมง หรือข้ามคืนเลยก็ได้ เบกกิ้งโซดาหรือแป้งข้าวโพดจะช่วยดูดซับน้ำมันออกจากหนัง จากนั้นเช็ดแป้งหรือเบกกิ้งโซดาออกด้วยผ้าเนื้อนุ่ม จากนั้นซับด้วยผ้าขนหนูจนแห้ง
กำจัดราด้วยรับบิ้งแอลกอฮอล์
ถ้าราขึ้นแจ็คเก็ตหนัง ไม่ต้องตกใจ ให้ผสมรับบิ้งแอลกอฮอล์ 1 ส่วน กับน้ำ 1 ส่วน ใช้ฟองน้ำชุบสารละลายที่ผสมไว้พอหมาดๆ แล้วขัดวนเบาๆ บริเวณที่มีคราบ จากนั้นใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ เช็ดอีกรอบเพื่อขจัดราส่วนที่เหลือออกให้หมด ตามด้วยการใช้ผ้าแห้งซับอีกครั้ง
5 เคล็ดลับบอกต่อเกี่ยวกับวิธีซักเสื้อหนังแท้
เสื้อหนังแท้มีบางอย่างที่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษ เรามีเกร็ดน่ารู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับดูแลรักษามาฝาก
เพื่อที่จะได้น้ำยาทำความสะอาดที่มีความอ่อนโยนและไม่สร้างความเสียหายให้กับหนัง อัตราส่วนที่แนะนำ คือ ใส่น้ำประมาณ 2-3 ออนซ์ลงไปในภาชนะ แล้วใส่น้ำยาล้างจานลงไปประมาณ 2 ช้อนชา จากนั้นคนจนส่วนผสมให้ละลายเข้ากัน การใส่น้ำยาล้างจานมากเกินไปอาจจะทำให้หนังเสื่อมสภาพและสีลอกจนมองเห็นเป็นรอยจุดด่างๆ ได้
ชุบน้ำยาด้วยผ้าขนหนูนิ่มๆ หรือฟองน้ำ จุ่มผ้าขนหนูหรือฟองน้ำลงในน้ำยาที่ผสมไว้แล้วบิดน้ำออกให้เปียกพอหมาดๆ ถ้าเปียกมากเกินไป แทนที่จะช่วยสลายคราบ น้ำอาจจะซึมเข้าหนังและสร้างความเสียหายมากขึ้นไปอีก
ห้ามใช้ผ้าเนื้อหยาบเช็ดหนัง เพราะอาจเกิดรอยขีดข่วนได้ถ้าคุณไม่ระวัง
อย่าหลงเชื่อคำแนะนำจากใครก็ตามที่บอกให้ใช้สารทำความสะอาดที่มีสารฟอกขาวเป็นส่วนประกอบ เพราะน้ำยาพวกนี้จะทำลายสารเคลือบผิวหน้าของหนัง ทำให้หนังแห้งมากจนเกิดรอยแตก
ควรปล่อยให้หนังแห้งเอง การใช้ความร้อนโดยตรงอาจทำให้หนังเสื่อมสภาพได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าหนังยังมีความชื้นจากน้ำอยู่ ดังนั้น ห้ามเอาไปอบในเครื่องอบผ้าหรือใช้ไดร์เป่าผมเป่าเด็ดขาด
เคล็ดลับบอกต่อเกี่ยวกับวิธีซักเสื้อหนังเทียม
แม้ว่าดูภายนอกจะดูคล้ายกันมากจนหลายคนแยกไม่ออก แต่หนังแท้และหนังเทียมมีคุณสมบัติหลักๆ ต่างกัน 2 ประการ คือ ผิวหน้าของหนังเทียมจะไม่มีรูพรุนเหมือนหนังแท้ ดังนั้นคราบสกปรกจึงเกาะติดหนังเทียมได้ยากกว่า และด้วยความที่เป็นวัสดุสังเคราะห์ เช่น PVC (poly vinyl chloride) หรือไม่ก็ polyurethane หรือ polyamide microfiber ถ้าปล่อยให้หนังแห้ง หนังเทียมจะมีโอกาสแห้งแตกเป็นริ้วมากกว่าหนังแท้ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับคุณภาพของวัสดุที่เอามาทำด้วย
ดังนั้น การทำความสะอาดและดูแลรักษาหนังเทียมจึงเป็นเรื่องสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าหนังแท้
ควรทำความสะอาดเป็นประจำ ด้วยน้ำยาทำความสะอาดอย่างอ่อน การใช้ผงซักฟอกชนิดเข้มข้นอาจทำให้หนังแห้งและแตก แนะนำให้ใช้น้ำอุ่นผสมกับน้ำยาล้างจาน ใช้ผ้านิ่มๆ ชุบสารละลายแล้วบิดให้พอหมาดๆ เช็ดที่รอยเปื้อน จากนั้นใช้ผ้าแห้งเนื้อนุ่มๆ หรือผ้าไมโครไฟเบอร์เช็ดตามอีกรอบ
หลายคนสงสัยว่าสามารถซักแจ็คเก็ตหนังเทียมด้วยเครื่องซักผ้าได้หรือไม่ คำตอบอยู่ที่ป้ายสัญลักษณ์การดูแลรักษา หากระบุว่าซักเครื่องได้ คุณก็อาจเลือกซักด้วยเครื่องเพื่อความสะดวก แต่ควรเลือกโหมดซักมือหรือซักผ้าที่ต้องการถนอม และควรหลีกเลี่ยงการใช้โหมดปั่นแห้ง
การใช้น้ำยาบำรุงรักษาเครื่องหนังกับหนังเทียม แม้ว่าน้ำยาจะไม่สามารถซึมเข้าไปให้ความชุ่มชื้นแก่หนังได้เหมือนหนังแท้ แต่อย่างน้อยน้ำยาจะช่วยเคลือบชั้นผิวด้านนอกไว้ ช่วยไม่ให้ฝุ่นเกาะและทำความสะอาดง่ายขึ้น
5 ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับการดูแลแจ็คเก็ตหนังด้วยวิธีซักแห้ง
หลายคนยังมีข้อกังขาว่าการส่งเสื้อแจ็คเก็ตหนังเข้าร้านซักแห้งดีจริงหรือไม่ เรามีคำตอบมาให้
เชื่อว่าห้ามใช้วิธีซักแห้งกับแจ็คเก็ตหนังเด็ดขาด
ความจริง คือ ซักแห้งได้ แต่คุณควรเลือกร้านที่แน่ใจว่ามีความเชี่ยวชาญด้านการซักแห้งแจ็คเก็ตหนังจริงๆ เพราะในกระบวนการซักแห้งมีน้ำยาและสารเคมีเข้ามาเกี่ยวข้อง หากผู้ให้บริการไม่ชำนาญพอ เสื้อหนังของคุณอาจเกิดความเสียหายได้
เชื่อว่าถ้าซักแจ็คเก็ตหนังบ่อย หนังจะเปื่อยขาดเร็ว
ความเชื่อนี้จริงบางส่วน แต่อย่าลืมว่าการดูแลให้แจ็คเก็ตหนังของคุณสะอาด ไร้ฝุ่นหรือสิ่งสกปรกสะสม ก็จะช่วยยืดอายุการใช้งานและคงสภาพหนังให้ดีได้เช่นกัน ดังนั้น ควรเช็ดทำความสะอาดด้วยผ้าเนื้อนิ่มเป็นประจำ จะช่วยป้องกันคราบติดแน่นได้
เชื่อว่าควรใช้บริการเฉพาะร้านซักแห้งแพงๆ เท่านั้น
ร้านใหญ่ๆ ที่คิดค่าบริการแพงๆ ก็ไม่มีอะไรรับประกันว่าแจ็คเก็ตหนังของคุณจะได้รับการดูแลที่ดีเลิศเสมอไป สิ่งที่คุณควรทำมากที่สุด คือ สำรวจหาร้านซักแห้งที่น่าเชื่อถือ มีวัสดุอุปกรณ์พร้อมให้บริการครบ และไม่ใช้สารเคมีรุนแรงกับเสื้อของคุณ ดังนั้น ไม่ว่าร้านเล็กหรือใหญ่ เลือกที่ผลงานจะดีกว่า
เชื่อว่าวิธีซักแห้งลดความทนทานของแจ็คเก็ตหนัง
แน่นอน การซักบ่อยเกินไปย่อมทำให้เสื้อผ้า (ไม่ว่าประเภทไหน) มีอายุการใช้งานสั้นลง ดังนั้น การซักแห้งจึงไม่ใช่สาเหตุเดียว การซักอย่างไม่ถูกวิธีหรือเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ไม่เหมาะสมก็มีส่วน ฉะนั้น ก่อนซักควรอ่านคำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลรักษาให้เข้าใจ
เชื่อว่าควรเก็บแจ็คเก็ตหนังไว้ในพลาสติกที่ร้านซักแห้งห่อมา
เสื้อผ้าราคาแพงอย่างชุดสูท แจ็คเก็ตหนัง หรือชุดราตรี ที่ส่งกลับมาจากร้านซักรีด มักมีพลาสติกหุ้มมาด้วยเสมอ หลายคนไม่ยอมแกะจนกว่าจะถึงเวลาใส่ โดยคิดไปเองว่าอยู่ในนั้นมันจะสะอาดกว่า แต่นั่นเป็นความเชื่อที่ผิดมหันต์
ความเป็นจริง คือ แจ็คเก็ตหนังที่ถูกพลาสติกหุ้มไว้นานๆ ยิ่งจะทำให้เกิดความร้อนภายใน อากาศและความชื้นไม่ถูกระบายออก และเสี่ยงจะกลายเป็นที่อยู่อาศัยของแมลง ซึ่งอาจทำให้เกิดคราบสกปรกที่ซักออกยาก ทางที่ดีควรแกะพลาสติกที่หุ้มมาออกแล้วแขวนตามปกติในตู้เสื้อผ้า ถ้ากลัวจะเปื้อนง่าย ให้ซื้อถุงคลุมเสื้อผ้าโดยเฉพาะมาใช้จะดีกว่า ถุงประเภทนี้กันฝุ่นและรอยยับได้ ในขณะเดียวกันก็ถ่ายเทอากาศและความชื้นไม่ให้หนังมีกลิ่นอับ
ทำอย่างไรดี ถ้าเสื้อหนังมีกลิ่นอับ
กลิ่นเหม็นอับส่วนใหญ่เกิดจากความชื้น กลิ่นเหงื่อ หรือควันบุหรี่ คุณสามารถกำจัดกลิ่นเหม็นอับดังกล่าวได้โดยเปิดน้ำร้อนใส่อ่างอาบน้ำหรืออ่างล้างหน้าในห้องน้ำ เติมน้ำส้มสายชู 1-2 แก้วลงไปในน้ำร้อน จากนั้นนำแจ็คเก็ตหนังของคุณไปแขวนเหนืออ่างประมาณ 3-4 ชั่วโมง กลิ่นอับก็จะหายไป
อีกวิธีที่ง่ายที่สุดคือ นำแจ็คเก็ตหนังของคุณไปแขวนในที่ร่มที่อากาศถ่ายเทได้ดี รูดซิปและปลดกระดุมทุกเม็ดออก อากาศจากธรรมชาติภายนอกบ้านก็ช่วยขจัดกลิ่นอับได้
วิธีดูแลเสื้อหนังตัวโปรดแบบง่ายๆ ให้อยู่กับเรานานๆ
แนะนำให้จบงานทำความสะอาดแจ็คเก็ตหนังของคุณด้วยสเปรย์ แวกซ์ หรือครีมสำหรับดูแลรักษาเครื่องหนังโดยเฉพาะ โดยฉีดหรือทาบางๆ ทิ้งไว้ประมานครึ่งชั่วโมงแล้วเช็ดออก (อย่าลืมเลือกซื้อตามชนิดของหนัง ดูวิธีใช้ คำแนะนำ และคำเตือนที่ฉลากของแต่ละยี่ห้อด้วย)
ควรทาน้ำยาดูแลรักษาเครื่องหนังอย่างน้อยปีละครั้ง จะช่วยให้หนังมีความนุ่มและยืดหยุ่น คืนความมีชีวิตชีวาให้เสื้อหนังของคุณ ทั้งยังเป็นเกราะป้องกันฝุ่นและสิ่งสกปรกไม่ให้เกาะติดหนังได้ง่ายอีกด้วย
การเก็บรักษา
ควรแขวนตากให้แห้งก่อนเก็บทุกครั้ง หนังแท้ที่โดนความชื้นบ่อยๆ หรือปล่อยให้อยู่กับความชื้นนานเกินไป หนังอาจขึ้นราหรือเสื่อมสภาพเร็วกว่าที่ควรจะเป็น ถ้าจะให้ดีก็วางถุงดูดความชื้นไว้ในตัวเสื้อด้วย
ถ้ายังไม่ได้ใช้ ให้เก็บให้พ้นจากแสงแดดและห่างไกลความร้อน ไม่ควรนำเสื้อหนังไปตากแดดแรงๆ และนานๆ เพราะจะทำให้หนังสีซีดและแห้งกรอบได้
ควรแขวนเสื้อหนังแทนการพับ เพราะการพับเสื้อหนังนั้นจะทำให้หนังเป็นรอยยับ ไม่สวยงาม การเเขวนจะช่วยให้เสื้อหนังคงรูป ไม่เสียทรง ถ้าคุณไม่ได้ใช้งานแจ็คเก็ตหนังบ่อย ควรเก็บไว้ในถุงใส่เสื้อสูท
กรณีเกิดรอยยับจากการที่คุณเก็บไว้ในตู้เสื้อผ้านานๆ ให้คุณวางผ้าขนหนูไว้บนแจ็คเก็ตหนัง แล้วใช้เตารีดรีดด้วยความร้อนปานกลาง หรือไม่ก็เอาไปแขวนไว้ในห้องน้ำด้วยเวลาที่คุณอาบน้ำอุ่น ไอน้ำอุ่นๆ จะช่วยให้รอยยับย่นคลายตัว
ควรเอาเสื้อหนังออกมาแขวนไว้ในที่ที่มีอากาศถ่ายเทได้สะดวกอย่างน้อยเดือนละครั้ง เพื่อป้องกันกลิ่นอับ โดยเลือกวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส มีลมพัดเย็นสบาย
น้ำยาดูแลรักษาเครื่องหนัง คุณเองก็ทำได้
พอแจ็คเก็ตหนังของคุณสะอาดสมใจไร้คราบแล้ว แนะนำให้ใช้น้ำยาดูแลรักษาเครื่องหนังเพื่อป้องกันไม่ให้หนังแห้งกรอบและเกิดรอยแตก ทั้งยังช่วยต้านทานรอยเปื้อนที่จะเกิดใหม่ในอนาคตอีกด้วย น้ำยาที่ว่านี้คุณสามารถหาซื้อได้ตามท้องตลาด หรือจะทำใช้เองก็ได้ บอกเลยว่าไม่ยาก
วัสดุที่ต้องใช้
น้ำส้มสายชู
น้ำมันลินสีด (linseed oil)
ภาชนะสำหรับใส่ส่วนผสม
ตะเกียบไม้สำหรับคนส่วนผสม
ขวดพร้อมฝาปิดสำหรับใส่น้ำยาที่ผสมเสร็จแล้ว (ถ้าใช้ขวดรีไซเคิลที่ล้างสะอาดแล้วได้ยิ่งดี)
วิธีทำ
เทน้ำส้มสายชู 1 ส่วน ผสมกับน้ำมันลินสีด 2 ส่วน ลงในภาชนะผสม
ใช้ตะเกียบไม้ค่อยๆ คนส่วนผสมให้เข้ากัน
กรอกใส่ขวด ปิดฝาให้สนิท
ส่วนวิธีใช้น้ำยาที่ทำเอง เพียงใช้ฟองน้ำชุบน้ำยาเช็ดที่แจ็คเก็ตหนังของคุณให้ทั่ว ทิ้งไว้ 15 นาที จากนั้นเช็ดด้วยผ้าเนื้อนุ่มจนหนังมันเงา วิธีนี้จะทำให้แจ็คเก็ตหนังของคุณสวยทน สวยนาน
เห็นไหมว่าวิธีซักเสื้อแจ็คเก็ตหนังและดูแลให้เหมือนใหม่เสมอไม่ได้ยากเย็นอะไร แถมทำง่าย สบายกระเป๋าอีกด้วย แต่ถ้าคราบสกปรกนั้นฝังแน่นหรือหนักมากจนยากจะจัดการไหว คงต้องทำใจส่งไปร้านซักแห้งเลยจะดีกว่า เพื่อให้มืออาชีพด้านเครื่องหนังทำความสะอาดให้ อย่าได้เสี่ยงทำเองเลย เพราะอาจได้ไม่คุ้มเสีย