Unilever logo
Cleanipedia logo

วิธีบอกลาเสื้อผ้าเหม็นเหงื่อแบบเรื้อรัง

พร้อมแนะวิธีซักผ้าให้หอม จนกลิ่นเหม็นเหงื่อต้องยอมสยบ

อัปเดตเมื่อ

เวลาอ่าน: นาที

มะนาวช่วยแก้กลิ่นตัวติดเสื้อและเสื้อผ้าเหม็นเหงื่อ

อากาศร้อนระอุแบบนี้ เหงื่อย่อมออกง่ายเป็นธรรมดา และเมื่อความชื้นจากเหงื่อบวกกับอุณหภูมิที่ร้อนอบอ้าว เสื้อผ้าจึงกลายเป็นแหล่งสะสมแบคทีเรียและอาจเป็นสาเหตุให้เสื้อผ้าเหม็นเหงื่อแบบเรื้อรัง ยิ่งถ้ายังซักทำความสะอาดด้วยวิธีเดิมๆ ก็ลืมไปได้เลยว่ากลิ่นไม่พึงประสงค์เหล่านี้จะถูกกำจัดออกได้ง่ายๆ แต่ไม่เป็นไร คุณจะเบาใจได้ด้วยหลากหลายวิธีแก้กลิ่นตัวติดเสื้อ กลิ่นเหงื่อจะหายไปและไม่กลับมาอีก

กําจัดกลิ่นเหงื่อติดเสื้อ ต้องใช้น้ำส้มสายชู

ของคู่ครัวอย่างน้ำส้มสายชูมีประโยชน์ใช้สอยสารพัด นอกจากจะใช้ประกอบอาหารและทำความสะอาดเครื่องใช้ต่างๆ ในบ้านแล้ว ยังช่วยขจัดคราบสกปรกและกลิ่นเหม็นเหงื่อที่ติดเสื้อผ้าได้ดีอีกด้วย    

  • วิธีแรก นำเสื้อผ้าเหม็นเหงื่อไปแช่ในน้ำผสมน้ำส้มสายชูประมาณ  2-3 ช้อนชา ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที จากนั้นนำเสื้อผ้าขึ้นมาบิดหมาด แล้วนำไปซักทำความสะอาดตามปกติ กลิ่นเสื้อเหม็นเปรี้ยวหรือเหม็นเหงื่อจะหายไป  

  • อีกวิธี ใช้สำลีชุบน้ำส้มสายชูเช็ดตามตะเข็บเสื้อและบริเวณใต้วงแขน ทิ้งไว้ 10 นาที แล้วนำไปซักและตากให้แห้งตามปกติ

  • ถ้าซักด้วยเครื่อง ให้เทน้ำส้มสายชู 1/3 ถ้วยตวง ลงไปในเครื่องซักผ้า แล้วแช่เสื้อผ้าเหม็นเหงื่อทิ้งไว้อย่างน้อย 10 นาที จากนั้นเปิดเครื่องซักตามปกติ แต่ถ้าเสื้อเหม็นเหงื่อรุนแรงชนิดฝังแน่น ให้เทน้ำส้มสายชู 1/3 ถ้วยตวงลงไปอีกครั้งระหว่างรอบซักด้วยน้ำเปล่า

  • ข้อควรระวัง เนื่องจากน้ำส้มสายชูมีฤทธิ์เป็นกรด ดังนั้น อย่าลืมอ่านป้ายสัญลักษณ์การดูแลเสื้อผ้าให้ละเอียดก่อนใช้วิธีนี้ ควรทดสอบโดยการหยดน้ำส้มสายชูลงบนผ้าบริเวณที่สังเกตไม่เห็นเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่ทำให้สีตก

จะเวิร์คไหมถ้าใช้เบกกิ้งโซดา

กลิ่นเสื้อเหม็นเปรี้ยวบริเวณรักแร้ที่ฝังแน่น เบกกิ้งโซดาช่วยได้

  • ผสมเบกกิ้งโซดา 1/4 ถึง 1/2 ถ้วยตวงกับน้ำอุ่นเล็กน้อยให้เป็นเนื้อครีมข้น

  • นำไปป้ายตะเข็บรักแร้ ขยี้แล้วทิ้งไว้ประมาณครึ่งชั่วโมง

  • จากนั้นล้างออกด้วยน้ำเปล่าก่อนนำไปซักด้วยผงซักฟอกตามปกติ

  • อาจเติมน้ำส้มสายชูลงไปในขั้นตอนการล้าง กลิ่นจะหายไปอย่างน่าอัศจรรย์

ใช้น้ำยาฆ่าเชื้อโรคกำจัดแบคทีเรีย

 น้ำยาฆ่าเชื้อโรคสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นต้นตอก่อให้เกิดกลิ่นเหม็นติดเสื้อได้ดี

  • ผสมน้ำยาฆ่าเชื้อโรคและน้ำในอัตราส่วน 50:50 แล้วนำเสื้อที่มีกลิ่นตกค้างไปแช่ทิ้งไว้ 20 นาที

  • จากนั้นนำไปซักตามปกติ กลิ่นฝังแน่นในเนื้อผ้าหายไป

  • ควรเลือกน้ำยาฆ่าเชื้อโรคสูตรที่คุณแน่ใจว่าใช้ทำความสะอาดเสื้อผ้าได้ (ดูที่ฉลาก)

ใครจะเชื่อ ซักด้วยน้ำเกลือก็ได้

ถึงจะเป็นเสื้อผ้าตัวโปรด แต่ถ้าเสื้อเหม็นเหงื่อมากๆ ก็ทนใส่ไม่ได้อยู่ดี วิธีนี้ประหยัดสุดๆ เพียงนำเกลือ (ได้ทั้งเกลือเม็ดและเกลือป่น) 4-5 ช้อนโต๊ะไปละลายน้ำ แล้วนำผ้าที่มีกลิ่นเหงื่อลงไปแช่ทิ้งไว้ 1 คืน วันรุ่งขึ้นนำไปซักตามขั้นตอนปกติ

 อีกวิธีที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการกําจัดกลิ่นเหงื่อติดเสื้อ คือ ใช้น้ำอุ่น โดยละลายเกลือกับน้ำอุ่นในอัตราส่วน เกลือ 3 ช้อนโต๊ะต่อน้ำ 1 ลิตร แล้วนำเสื้อไปแช่ทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง ตามด้วยการซักด้วยน้ำยาซักผ้าหรือผงซักฟอกอีกครั้ง

ลดแบคทีเรีย เคลียร์กลิ่นเหงื่อด้วยแอลกอฮอล์

ง่ายๆ เพียงใช้สำลีชุบแอลกอฮอล์ล้างแผลแล้วนำไปเช็ดบริเวณที่มีกลิ่นติดเสื้อ ทิ้งไว้อย่างน้อย 1 ชั่วโมงแล้วจึงนำไปซัก

 ถ้ามีวอดก้าติดบ้านอยู่ คุณก็สามารถใช้วอดก้าผสมกับน้ำเปล่าในอัตราส่วน 1: 3 แล้วเทลงในขวดสเปรย์ นำไปฉีดพ่นบนเสื้อผ้าเหม็นเหงื่อให้ทั่ว โดยเน้นบริเวณรักแร้ แต่กะให้พอหมาดๆ แล้วนำไปผึ่งแดดจนเสื้อผ้าแห้งแล้วจึงซักตามปกติ เท่านี้กลิ่นจะหายไป

น้ำยาซักผ้าขาวหรือมะนาวก็ว้าวได้

น้ำยาซักผ้าขาวหรือผงฟอกขาวมีคุณสมบัติในการกำจัดแบคทีเรียในตัวอยู่แล้ว จึงเหมาะจะนำไปซักเสื้อผ้าขาวที่มีกลิ่นเหงื่อ นอกจากจะช่วยแก้ปัญหาเสื้อเหม็นเหงื่อแล้ว ยังทำให้เสื้อผ้ากลับมาขาวสะอาดน่าสวมใส่อีกครั้ง

แต่ถ้าคุณเป็นสายกรีน ไม่ชอบใช้สารเคมี ลองใช้แปรงซักผ้าชุบน้ำมะนาวไปแปรงเสื้อผ้าบริเวณที่มีกลิ่นเหม็นเหงื่อรุนแรงอย่างบริเวณรักแร้ทั้งสองข้างและกลางหลัง ทิ้งไว้ 10 นาทีแล้วค่อยนำไปซัก ระวังอย่าทิ้งไว้นานจนแห้งเกรอะ เพราะอาจได้คราบน้ำมะนาวเป็นของแถม

ใช้น้ำยาบ้วนปากกระชากกลิ่นรักแร้

 แก้ปัญหาเสื้อเหม็นเหงื่อได้ง่ายๆ โดยใช้น้ำยาบ้วนปากผสมกับน้ำในอัตราส่วน 1:1 คนให้เข้ากันแล้วนำเสื้อที่มีปัญหากลิ่นรักแร้ฝังแน่นลงไปแช่ทิ้งไว้ 30 นาที จากนั้นนำไปซักตามปกติ

ถ้าจะให้ง่ายกว่านั้นอีก ก็แค่เทน้ำยาบ้วนปากลงไปในเครื่องซักผ้าระหว่างรอบการซักปกติ ส่วนผสมและกลิ่นหอมสดชื่นของน้ำยาบ้วนปากจะช่วยสลายกลิ่นเจ้าปัญหาให้หมดไป    

วิธีซักผ้าให้หอม

 การแก้ปัญหาเสื้อผ้าเหม็นเหงื่อแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดต้องป้องกันไม่ให้กลิ่นเหม็นอับกลับมากวนใจอีก วิธีซักผ้าให้หอมก็ไม่ยาก

  • หลีกเลี่ยงการซักผ้าคราวละมากๆ เพราะจะเกินกำลังของเครื่องและเกินประสิทธิภาพของสารทำความสะอาด

  • ปรับพฤติกรรมเพื่อป้องกันไม่ให้เสื้อผ้าเป็นแหล่งสะสมแบคทีเรีย โดยเฉพาะเสื้อผ้าที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อ หากไม่สะดวกซักทันที ก่อนโยนลงตะกร้าเพื่อรอเวลาซัก ควรนำไปผึ่งลมให้แห้งก่อน จะช่วยลดแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดกลิ่นติดแน่น

  • ถ้าเป็นคนชอบออกกำลังกายหรือต้องทำกิจกรรมกลางแจ้งบ่อยๆ แต่ไม่ค่อยมีเวลาซักผ้า ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ซักผ้าสูตรสำหรับกำจัดกลิ่นอับหรือผสมสารแอนตี้แบคทีเรีย เพื่อสกัดกลิ่นเหม็นอับตั้งแต่ต้นทาง

  • ต้องแน่ใจว่าใช้ผงซักฟอกในปริมาณที่พอเหมาะ ถ้ามากไป คราบผงซักฟอกจะดักจับความชื้น ซึ่งสุดท้ายจะกลายเป็นสาเหตุของกลิ่นอับ

  • ถ้าจำเป็นต้องแช่เสื้อผ้าก่อนซัก ไม่ควรแช่ไว้ข้ามคืน เพราะจะทำให้เกิดกลิ่นอับบวกเข้าไปอีก

  • สามารถเพิ่มความหอมด้วยการใช้น้ำยาปรับผ้านุ่ม แนะนำว่าถ้าเป็นสูตรเข้มข้นจะหอมนาน

  • กรณีใช้เครื่องซักผ้า ควรนำผ้าออกจากเครื่องทันทีเมื่อซักเสร็จ ควรตากผ้าในที่ที่มีแสงแดดเพียงพอและอากาศถ่ายเท จะทำให้ผ้าแห้งและช่วยถนอมเนื้อผ้าได้ดีกว่าการอบผ้าแห้ง

  • ถ้าไม่จำเป็น ควรหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องอบผ้า เพราะหากมีกลิ่นหลงเหลืออยู่ ความร้อนจะยิ่งทำให้กลิ่นแรงขึ้นกว่าเดิม และจะทำให้คราบที่ตกค้างอยู่ซักออกได้ยาก

ทำความสะอาดเสื้อผ้าที่เก็บไว้

วิธีใช้น้ำยาปรับผ้านุ่ม

มีวิธีใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มอย่างไรให้ผ้านุ่ม หอมนาน มาดูกัน  

  • ควรตวงและใช้ในปริมาณตามที่แนะนำบนฉลาก เพื่อให้เกิดความเหมาะสมระหว่างปริมาณผ้าและประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์

  • ในการใช้น้ำยาปรับผ้านุ่ม ไม่ควรเทน้ำยาลงบนเนื้อผ้าโดยตรง เพราะอาจทำให้ผ้าเกิดรอยด่างได้ ควรเทน้ำยาผสมกับน้ำก่อนนำผ้าลงไปแช่

  • กรณีซักผ้าด้วยเครื่องซักผ้า ควรเทน้ำยาปรับผ้านุ่มลงในช่องที่กำหนดและใช้ในปริมาณที่ระบุไว้ในคู่มือการใช้งาน

  • กรณีซักมือ ควรล้างผ้าที่ซักแล้วให้สะอาดด้วยน้ำเปล่าก่อนอย่างน้อย 1 น้ำ แล้วจึงนำไปแช่ในน้ำผสมน้ำยาปรับผ้านุ่มประมาณ 30 นาที จากนั้นล้างน้ำสะอาดอีก 1 ครั้ง ก่อนจะบิดขึ้นตาก

  • ไม่ควรตากผ้าไว้ในบริเวณที่แดดจัดเกินไป เพราะนอกจากจะเป็นการทำลายกลิ่นหอมของน้ำยาปรับผ้านุ่มแล้ว ยังทำให้เส้นใยผ้าแห้งกรอบ สีจะซีดจาง และเสื่อมสภาพเร็วอีกด้วย

วิธีป้องกันเหงื่อบนเสื้อผ้า?

อยากป้องกันเหงื่อบนเสื้อผ้าใช่ไหม? เรามาดูวิธีการป้องกันเหงื่อบนเสื้อผ้ากันบ้าง! เหงื่อบนเสื้อผ้าเป็นปัญหาที่พบได้บ่อย แต่ไม่ต้องกังวล เรามีเคล็ดลับให้คุณ! ทีเด็ดแรกคือการเลือกใช้ผ้าที่มีความระบายน้ำและระบายอากาศดี เช่นผ้าฝ้าย หรือผ้าที่ผสมใยฝ้าย นอกจากนี้ควรเลือกเสื้อผ้าที่มีการตัดเย็บที่เหมาะสมเพื่อให้ระบายความร้อนได้ดีกว่า นอกจากนี้ ควรใส่ผลิตภัณฑ์ป้องกันเหงื่อก่อนสวมใส่เสื้อผ้า เช่น สเปรย์ป้องกันเหงื่อ หรือผงป้องกันเหงื่อ ซึ่งจะช่วยลดปัญหาเหงื่อบนเสื้อผ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ! ด้วยความเชี่ยวชาญของเรา เราสามารถให้คำแนะนำที่แม่นยำเพื่อช่วยป้องกันเหงื่อบนเสื้อผ้าของคุณได้!

ถ้าปวดหัวกับปัญหาเสื้อผ้าเหม็นเหงื่อหรือกลิ่นตัวติดเสื้อ ลองทำตามวิธีที่เราได้รวบรวมมาให้ข้างตัน รับรองว่ากลิ่นเหม็นเหงื่อหรือเสื้อเหม็นเปรี้ยวจะไม่ตามรบกวนคุณอีก

เผยแพร่ครั้งแรก