ขั้นตอนการรีดผ้า
1. วอร์มเตารีด
ในกรณีที่คุณพ่อบ้านแม่บ้านใช้เตารีดระบบปกติ การวอร์มเตารีดก่อนนำไปรีดกับเสื้อผ้าจริงๆ ของเรา จะช่วยให้รีดได้ง่าย ไม่ต้องใช้แรงเยอะ ผ้าก็เรียบสวย โดยวิธีวอร์มเตารีดทำได้ง่ายๆ ด้วยการนำเตารีดที่เปิดจนร้อนแล้ว ไปรีดบนผ้าชื้นก่อน จะเ ป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของเตารีด รวมถึงยังเป็นการทำความสะอาดฝุ่นที่อาจติดอยู่กับเตารีดไปในตัวอีกด้วย
แต่หากบ้านไหนใช้เตารีดระบบไอน้ำ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องพกพา หรือเครื่องไซส์ใหญ่ ก็ไม่จำเป็นจะต้องวอร์มเตารีด แต่การใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดเตารีดก่อนเริ่มรีด ก็ถือเป็นการทำความสะอาดเตารีดที่ควรทำเป็นประจำก่อนเริ่มใช้งานเช่นกัน
2. ความชื้นสำคัญ
การจะรีดผ้าให้เรียบนั้น ความชื้นมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างมาก หากนำเตารีดไปรีดบนผ้าที่แห้งสนิท มีโอกาสที่ผ้าจะไหม้ รวมถึงทำให้เสื้อผ้าเรียบได้ยาก เพราะผ้ามีความแข็งตัวสูง แต่หากใช้น้ำพรมก่อนรีดให้เสื้อผ้าตัวนั้นๆ มีความชื้นสักเล็กน้อย หรือใช้เตารีดไอน้ำที่มีการพ่นความชื้นทุกครั้งที่รีด จะทำให้รีดผ้าได้ง่าย รีดเรียบ หรือจ ะรีดจับกลีบก็สวยคมชัดกว่า เพราะความชื้นจะช่วยให้เส้นใยของผ้านุ่มตัวลง เมื่อเจอความร้อนมารีดทับ จะเปลี่ยนแปลงรูปทรงตามที่เราต้องการได้ง่ายกว่า
3. อุณหภูมิเตารีดที่เหมาะกับผ้าแต่ละชนิด
การเลือกใช้อุณหภูมิที่เหมาะสมกับผ้าแต่ละชนิด จะช่วยให้การรีดผ้ายิ่งมีประสิทธิภาพมากขึ้น รีดเรียบขึ้นโดยไม่ต้องพยายามใช้แรงกดขณะรีด ซึ่งเราจะแบ่งผ้าออกเป็น 4 ชนิดหลักๆ ที่คนไทยนิยมสวมใส่กัน ดังนี้
1. ผ้าคอตตอน - ผ้าที่คนส่วนใหญ่ใช้สวมใส่ในชีวิตประะจำวัน ทำมาจากเส้นใยธรรมชาติ มีความนุ่มไม่แข็งกระด้าง หากต้องการรีดผ้าคอตตอนให้เรียบ ควรใช้อุณหภูมิปานกลางถึงสูงจะได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
2. ผ้าฝ้ายและผ้าลินิน - ผ้าที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบัน ใครสายคอนเทนต์กลางแจ้งก็มักสว มใส่ผ้า 2 ชนิดนี้กัน ด้วยคุณสมบัติที่ระบายความชื้นได้เป็นอย่างดี ทั้งยังทนทานต่อความร้อน ซึ่งหากต้องการรีดผ้า 2 ชนิดนี้ ที่เนื้อผ้ามีความหยาบอยู่เล็กน้อย และต้องการการทะนุถนอมเป็นพิเศษ จึงควรรีดผ้าด้วยอุณหภูมิปานกลางถึงสูง โดยรีดด้านในของเสื้อผ้าเท่านั้น และรีดอย่างเบามือสักหน่อย เพียงเท่านี้ก็จะได้เสื้อผ้าที่เรียบสวยพร้อมใส่แล้ว
3. ผ้าขนสัตว์ และผ้าไหมพรม - สำหรับใครที่กำลังเตรียมตัวเที่ยว หรือเป็นสายแฟชั่น ที่ต้องการความเนี้ยบก่อนสวมใส่ผ้าขนสัตว์และผ้าไหมพรม สามารถรีดผ้าเหล่านี้ด้วยตัวเองง่ายๆ เพียงพลิกด้านในของผ้าออกมา จากนั้นนำผ้าชุดน้ำหมาดๆ มาวางทับก่อนรีดด้วยอุณหภูมิต่ำ หรือหากใครสะดวกก็สามารถใช้เตารีดไอน้ำได้เลย
4. ผ้าไหม - ผ้าอีกชนิดหนึ่งที่อยู่กับคนไทยมานาน จนทำให้ หลายๆ คนคิดว่าการดูแลผ้าไหมเป็นเรื่องยาก ต้องให้ผู้เชี่ยวชาญเป็นคนดูแลเท่านั้น แต่ความจริงแล้วเราสามารถรีดผ้าไหมให้เรียบเองได้ง่ายๆ หากรู้วิธีที่ถูกต้อง ซึ่งวิธีง่ายๆ ก็คือการพลิกด้านในของผ้าไหมออกมา นำผ้าขาวบางมารองก่อนรีดทุกครั้ง โดยใช้อุณหภูมิในการรีดอยู่ที่ 145 องศาเซลเซียส จากนั้นพลิกด้านนอกของเสื้อออกมา แล้ววางทับด้วยผ้าขาวบางและรีดด้วยอุณหภูมิต่ำ เพราะผ้าไหมมีความแวววาวสูง การนำผ้าขาวบางมาวางก่อนรีด จะช่วยถนอมเส้นใยผ้าได้เป็นอย่างดี
4. จัดทรงเสื้อก่อนรีด
ก่อนรีดผ้าทุกครั้ง ให้จัดทรงเสื้อผ้าให้ดีก่อนเริ่มรีด เพราะจะทำให้เห็นทรงเดิมของเสื้อผ้าชัดเจน และสามารถรีดได้ง่ายมากขึ้น เช่น เสื้อเชิ้ต เริ่มรีดจากแขนทั้ง 2 ข้าง ก่อนจะรีดที่ปกเสื้อ และตัวเสื้อ แล้วค่อยนำมาแขวนสำรวจอีกครั้งว่ามีส่วนไหนยังไม่เรียบไหม หากเจอส่วนที่ยังไม่เรียบจึงค่อยรีดทับอีกครั้ง หรือหากเป็นกางเกงและกระโปรง ให้รีดจากบนลงล่างตามรอยพักและรอยจีบ
5. ทิศทางการรีดผ้า
ทิศทางการรีดผ้าคืออีกหนึ่งสิ่งที่หลายๆ คนอาจมองข้าม แต่การรีดผ้าไปคนละทิศละทาง รีดซ้ายไปขวา หรือรีดวนไปมาสลับกัน จะทำให้ผ้าไม่เรียบ เกิดรอยคลื่นบนเสื้อผ้าได้ง่าย จึงควรกำหนดทิศทางการรีดผ้าให้ชัดเจนแล้วรีดไปในทิศทางเดียวกันจะดีที่สุด
6. ทำความสะอาดเตารีด
การทำความสะอาดเตารีดอยู่เสมอ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการรีดผ้าให้ดียิ่งขึ้น เพราะหน้าเตารีดอาจมีสิ่งสกปรกขวางทาง ทำให้รีดได้ไม่ลื่นไหล ซึ่งการทำความสะอาดเตารีดก็สามารถทำได้ง่ายๆ เพียงใช้ผ้าชุบน้ำมาเช็ดที่หน้าเตารีดก่อนเริ่มรีดผ้ า หรือหากเตารีดบ้านไหนไม่ค่อยได้ทำความสะอาด มีคราบต่างๆ เกาะอยู่มาก แนะนำให้ใช้น้ำยาทำความสะอาดเตารีด หรือใช้เบคกิ้งโซด้าผสมกับยาสีฟันมาถูๆ ก่อนเช็ดทำความสะอาดด้วยผ้าเปียก ก็จะทำให้เตารีดสะอาดพร้อมใช้งาน
7. เก็บเสื้อผ้าอย่างเหมาะสม
หลังรีดผ้าเสร็จแล้ว ควรมีการจัดเก็บเสื้อผ้าที่เหมาะสม หากพึ่งรีดผ้าเสร็จใหม่ๆ เสื้อผ้าดูเรียบสวยน่าสวมใส่ แต่นำไปเก็บไม่เรียบร้อย ก็อาจเกิดรอยยับของเสื้อผ้าตามมาได้ จึงแนะนำให้แขวนเก็บในตู้หรือที่ที่หยิบจับได้ง่ายตามความสะดวกของแต่ละบ้าน แต่สิ่งที่ต้องคำนึงคือไม่ควรแขวนเสื้อผ้าชิดติดแน่นกันเกินไป เพราะจะทำให้เสื้อผ้าเบียดกันจนอาจเกิดรอยยับไม่พึงประสงค์ได้
และหากบ้านไหนกลัวการเก็บเสื้อผ้าในตู้จะทำให้เกิดกลิ่นอับ เรามีไอเทมแ นะนำ นั่นก็คือ ผลิตภัณฑ์ซักผ้าบรีส ที่ช่วยขจัดคราบหนักและกลิ่นอับได้เป็นอย่างดี ตากผ้าในวันฝนตกก็เอาอยู่ หมดกังวลเรื่องกลิ่นอับในการจับเก็บเสื้อผ้าไปได้เลย
8. เปลี่ยนหรือทำความสะอาดที่รองรีด
ที่รองรีดเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่จะบอกได้ว่าจะทำให้ผ้าเรียบหรือไม่ เพราะที่รองรีดเป็นเหมือนฐานที่ต้องรองรับการรีดผ้า หากที่รองรีดเสื่อมสภาพอาจทำให้เกิดรอยบุ๋ม และส่งผมต่อการรีดผ้าได้ จึงควรเช็คสภาพที่รองรีดและหมั่นทำความสะอาดอยู่เสมอ