ต้นไม้ฟอกอากาศ ต้นไม้ที่อาจมาในรูปแบบของไม้ดอก หรือไม้ประดับ ซึ่งไม่เพียงแต่จะเหมาะกับการตกแต่งบ้านให้ร่มรื่นน่าอยู่แล้ว ยังมาพร้อมกับคุณสมบัติคอยช่วยดูดซับสารพิษอันตรายภายในบ้าน เช่น ฟอร์มาลดีไฮด์ แอมโมเนีย คาร์บอนนอกไซด์ คอยช่วยมอบออกซิเจนอากาศบริสุทธิ์ที่ดีต่อสุขภาพทางเดินหายใจคนในบ้านได้อีกด้วย แต่จะมีเคล็ดลับปลูกต้นไม้ฟอกอากาศอย่างไรให้สวยงามตอบโจทย์ทั้งการใช้งานและการตกแต่งบ้านนั้น ตามมาอ่านกันได้เลย
5 เคล็ดลับปลูกต้นไม้ฟอกอากาศอย่างไรให้สวยงาม
1.ต้องรู้ก่อนว่าจะปลูกต้นไม้ฟอกอากาศแบบไหน
ถ้าคุณกำลังตัดสินใจว่าจะปลูกต้นไม้ฟอกอากาศในบ้าน อันดับแรกก็ควรศึกษารายละเอียด หรือข้อมูลสายพันธุ์ของต้นไม้ต้นนั้น ๆ ให้แน่ชัดว่ามีลักษณะ รูปร่างหน้าตาแบบไหน สามารถปลูกไว้ในที่แบบไหนได้บ้าง เช่น โดนแดดจัดได้ไหม หรือโดนได้แค่แดดรำไร เท่านี้ก็จะช่วยให้ต้นไม้ฟอกอากาศของคุณเติบโตอย่างสมบูรณ์และสวยงามแล้วล่ะ
2.การรดน้ำต้นไม้เป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก
แน่นอนว่าต้นไม้ทุกชนิดต้องการน้ำ ต้นไม้ฟอกอากาศก็เช่นกัน แต่ด้วยความที่ส่วนใหญ่เป็นต้นไม้ในร่มคุณจึงจำเป็นต้องศึกษาข้อมูลของต้นไม้ที่จะนำมาปลูกด้วยว่าต้องการน้ำมากน้อยแค่ไหน เพราะถ้าลดน้อยไปก็อาจเจริญเติบโตได้ไม่ดี หรือรดมากไปก็อาจทำให้รากเน่าต้นไม้ตายได้นั่นเอง
3. อย่าลืมเลือกขนาดกระถางให้เหมาะสม
การเลือกกระถางให้เหมาะสมกับต้นไม้ฟอกอากาศเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากเพราะถ้าต้นไม้ที่เลือกใหญ่กระถางก็ต้องใหญ่ไปตามไปด้วย ขณะเดียวกันการเลือกกระถางที่ดีไซน์สวยงามแปลกตายังช่วยส่งเสริมการตกแต่งบ้านให้ดูดีมีสไตล์ได้อีกด้วยเช่นกัน
4. คำนึงถึงตำแหน่งการจัดวางต้นไม้ฟอกอากาศร่วมด้วย
ต้นไม้ฟอกอากาศบางประเภทอาจเป็นต้นไม้เลื้อย ต้นไม้พุ่มใหญ่ ที่ต้องการพื้นที่ที่มากพอต่อการเจริญเติบโตฉะนั้นเวลาจัดวางต้นไม้ฟอกอากาศควรคำนึงถึงตำแหน่งการจัดวางร่วมด้วย อีกทั้งต้องดูในเรื่องของทิศทางแสงแดดด้วยว่าโดนต้นไม้มากน้อยแค่ไหน เพราะต้นไม้ฟอกอากาศบางประเภทก็ไม่ถูกกับแดดจัด เป็นต้น
5. เปลี่ยนย้ายกระถางเมื่อต้นไม้โตขึ้น
เมื่อเวลาผ่านไป แร่ธาตุในดินจะลดลงไป ฉะนั้นควรเปลี่ยนย้ายกระถางต้นไม้ฟอกอากาศทุก ๆ 6 เดือนเพื่อเป็นการเพิ่มแร่ธาตุสารอาหารในดิน และเป็นการเปลี่ยนกระถางให้เหมาะสมกับขนาดของต้นไม้ที่โตขึ้นเรื่อย ๆ อีกด้วยนั่นเอง [1]
แนะนำต้นไม้ฟอกอากาศน่าซื้อ ช่วยเพิ่มออกซิเจนบริสุทธิ์
พลูด่าง
ถ้าพูดถึงต้นไม้ฟอกอากาศที่พบได้ง่ายทั่วไป เลี้ยงดูง่ายก็ต้องยกให้พลูด่าง อีกทั้งยังสามารถช่วยฟอกอากาศได้ดี หรือจะหยิบไปจัดวางในห้องน้ำก็สามารถช่วยดูดซับความชื้นในอากาศได้ดีเยี่ยมเช่นกัน
2. เดหลี
นั้นไม่เพียงแต่จะถูกจัดว่าเป็นพืชมงคลเสริมดวงโชคลาภอายุยืนแก่คนในบ้านแล้ว ยังมีคุณสมบัติช่วยดูดซับสารพิษ คอยฟอกอากาศให้บริสุทธิ์สดชื่นอีกด้วย อีกทั้งเป็นต้นไม้ฟอกอากาศที่มีลำต้นสีเขียวตัดกับดอกสีขาวได้อย่างสวยงาม
3. ลิ้นมังกร
ต้นลิ้นมังกรถือเป็นต้นไม้ฟอกอากาศที่สามารถดูแลรักษาได้ง่ายมาก ๆ เพียงรดน้ำวันละครั้ง จะวางในร่ม หรือบริเวณที่มีแดดส่องถึงก็ได้ และยังช่วยเพิ่มปริมาณออกซิเจน ลดสารพิษเคมีในอากาศภายในที่พักอาศัยได้เป็นอย่างดี
4. มอนสเตอร่า
ต้นไม้ฟอกอากาศคอยดูดซับสารพิษอันตรายในอากาศ ที่มาพร้อมกับรูปลักษณ์ที่โดดเด่นด้วยใบขนาดใหญ่รูปทรงแปลกตา สีเขียวเข้มสวยงาม และดูแลรักษาง่ายเพียงรดน้ำอาทิตย์ละ 1 ครั้งเท่านั้น
5. ต้นยางอินเดีย
โดดเด่นด้วยลักษณะใบไม้ที่เป็นวงรีแปลกตา มีเขียวบ้าง มีม่วงบ้าง คอยช่วยดูดซับสารพิษ ฟอกอากาศที่ไม่ดีภายในบ้านให้กลายเป็นอากาศบริสุทธิ์ แนะว่าควรรดน้ำเป็นประจำ และควรวางไว้บริเวณที่รับแสงแดดได้ตรง
6. เศรษฐีเรือนใน
อีกหนึ่งต้นไม้ฟอกอากาศที่ได้รับความนิยมอย่างมากก็คือเศรษฐีเรือนใน เพราะสามารถช่วยเพิ่มอากาศบริสุทธิ์ ดูดซับสารพิษในอากาศได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญมีรูปลักษณ์ที่สวยงามโดดเด่นเหมาะกับการนำมาวางตกแต่งที่พักอาศัยอีกด้วยนั่นเอง
7. ปาล์มไผ่
ต้นไม้ฟอกอากาศที่มีใบเรียวยาวคล้ายใบมะพร้าว ปลูกง่าย เพียงวางไว้ในที่ที่โดนแดดและรดน้ำอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งไม่เพียงแต่จะนำมาวางไว้ในห้องเพื่อช่วยฟอกอากาศแล้ว ยังช่วยสร้างบรรยากาศภายในที่พักให้น่าผ่อนคลายเหมือนอยู่ชายหาดด้วย
8. เขียวหมื่นปี
ต้นไม้ฟอกอากาศที่มีลวดล ายบนใบหน้าสวยงาม นิยมนำมาปลูกในอาคารต่าง ๆ เนื่องจากดูแลง่าย เติบโตได้ดีแม้อยู่ในที่แดดน้อย ขณะเดียวกันก็มีคุณสมบัติช่วยดูดซับสารเคมีอันตรายภายในที่พักอาศัย เช่น คาร์บอนมอนนอกไซด์ เบนซิน
9. เฟิร์นบอสตัน
เฟิร์นบอสตันเป็นต้นไม้ฟอกอากาศที่จะปลูกกลางแจ้ง หรือจะหยิบมาปลูกในบ้านเพื่อฟอกอากาศก็ได้โดยเฉพาะช่วยดูดซับสารอันตรายอย่างฟอร์มาลดีไฮด์และเชื้อราภายในบ้าน มอบอากาศบริสุทธิ์ดีต่อสุขภาพทางเดินหายใจของผู้พักอาศัยได้ดีเยี่ยม
10. ตีนตุ๊กแกฝรั่ง
ตีนตุ๊กแกฝรั่ง ต้นไม้ฟอกอากาศประเภทไม้เลื้อย มีคุณสมบัติช่วยดูดซับสารเคมีอันตรายอย่างพวกฟอร์มาลดีไฮด์ เบนซิน ไซรีนได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย ที่สำคัญเป็นต้นไม้ฟอกอากาศที่ดูแลง่ายรดน้ำเพียง 3 วันครั้ง และสามารถโดนแดดรำไรได้ด้วย [2][3]
เรียกได้ว่าการปลูกต้นไม้ฟอกอากาศภายในที่พักอาศัย ก็สามารถช่วยเพิ่มอากาศบริสุทธิ์สดชื่นได้ และยังส่งผลดีต่อระบบสุขภาพทางเดินหายใจด้วย เพราะต้นไม้ฟอกอากาศเหล่านี้สามารถดูดซับสารเคมีต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังช่วยสร้างบรรยากาศภายในบ้านให้มีแต่ความร่มรื่นผ่อนคลายมากขึ้นด้วย และเพื่อให้ตอบโจทย์ทั้งการใช้งานและการตกแต่งบ้านก็อย่าลืมคำนึงถึงวิธีการปลูกต้นไม้ ฟอกอากาศที่ถูกต้องเหมาะสมด้วยล่ะ
การอ้างอิง:
Omgnadinechristine.(2021).การดูแลต้นไม้ฟอกอากาศ เคล็ดลับการปลูกง่ายๆควรทำอย่างไร.ข้อมูลจาก
ไทยรัฐ.(2022).30 สุดยอดต้นไม้ฟอกอากาศ มีอะไรบ้าง.ข้อมูลจาก https://www.thairath.co.th/lifestyle/life/2126946
AP.(2021).10 ต้นไม้ฟอกอากาศ ที่ช่วยดูดสารพิษ คืนอากาศบริสุทธิ์ให้แก่ห้องนอนของคุณ.ข้อมูลจาก https://www.apthai.com/th/blog/design-and-decor/designanddecor-air-purifying-plants-for-bedroom
Eastrivernursery.(2023).Your Guide to Air Plants and Air-Purifying Plants.ข้อมูลจาก https://eastrivernursery.com/blog/70750/your-guide-to-air-plants-and-air-purifying-plants
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับต้นไม้ฟอกอากาศ
Q : 1. ต้นไม้ฟอกอากาศช่วยสร้างอากาศบริสุทธิ์อย่างไร?
A : ต้นไม้ฟอกอากาศสามารถสร้างอากาศบริสุทธิ์ได้ด้วยการปล่อยก๊าซออกซิเจนออกมาผ่านกระบวนสังเคราะห์แสง พร้อมกับช่วยเพิ่มความชื้น ช่วยกรองเชื้อโรคในอากาศให้ลดน้อยลงไปด้วย
Q : 2. ต้องปลูกต้นไม้ฟอกอากาศกี่ต้นถึงจะได้อากาศบริสุทธิ์?
จำนวนในการปลูกต้นไม้ฟอกอากาศนั้นไม่ตายตัว แต่ขอแนะนำว่าในพื้นที่ 100 ตารางฟุต ควรปลูกต้นไม้ขนาดกลาง 8-10 นิ้ว เพื่อช่วยฟอกอากาศได้ดีในระดับหนึ่ง [4]
Q : 3. ต้นไม้ฟอกอากาศในบ้านต้องการแสงแดดไหม?
A : ต้นไม้ฟอกอากาศบางประเภทก็ต้องการแสงแดดจัดที่จำเป็นต่อการสังเคราะห์แสง เช่น ต้นยางอินเดีย ต้นปาล์มไผ่ ขณะเดียวกันต้นไม้ฟอกอากาศบางประเภทก็เหมาะอยู่ในที่ที่แสงแดดรำไรเท่านั้น แนะนำศึกษาข้อมูลต้นไม้นั้น ๆ ให้ละเอียดก่อนเลือกซื้อ