เมื่อน้ำท่วมบ้าน หลายคนน้ำตานองหน้าเมื่อเห็นข้าวของที่มีคุณค่าทางจิตใจละลายไปกับสายน้ำ บ้านที่เคยอบอุ่นก็กลายเป็นที่พักของเชื้อรา มองไปทางใดก็เห็นแต่เฟอร์นิเจอร์ไม้ขึ้นราและคราบสกปรก หันไปทางใดก็เจอแต่กลิ่นอับชื้น
ผู้เขียนก็เป็นคนหนึ่งที่มีประสบการณ์น้ำท่วมบ้านมาหลายครั้ง เคย เดินลุยน้ำท่วมมาหลายหน ทำให้เข้าใจและเห็นใจผู้ประสบอุทกภัยเป็นอย่างดี จึงขอมาแชร์ขั้นตอนทำความสะอาดบ้านหลังน้ำท่วมที่เข้าใจง่ายๆ และนำไปใช้ได้จริงมาให้คุณไปลองใช้ดู
ชี้พิกัดที่พักเชื้อรา
เชื้อราอยู่หนใดหลังน้ำท่วมบ้าน เรามีคำตอบง่ายๆ ให้คุณ หลักการสำรวจเชื้อราหลังน้ำท่วมบ้านมีอยู่ด้วยกัน 2 วิธีได้แก่ ดูด้วยตา สำรวจว่าผนังหรือเพดานมีรอยเปื้อนเชื้อราหรือไม่ อีกวิธีก็คือใช้ดมกลิ่น กลิ่นเชื้อราเป็นกลิ่นเหม็บอับทึบๆ เหม็นคล้ายกลิ่นดิน หากเจอเชื้อราอยู่ในสิ่งของหรือวัสดุที่มีรูพรุนซึ่งไม่อาจชะล้างกำจัดเชื้อราออกได้ ขอให้คุณตัดใจทิ้งของสิ่งนั้นทันที ถ้าเก็บไว้ก็จะกลายเป็นแหล่งเพาะเชื้อราที่ไม่มีวันจบสิ้น
เชื้อราที่มักพบหลังน้ำลดเช่น บริเวณพื้นบ้าน ฝาผนัง วอลล์เปเปอร์ เฟอร์นิเจอร์ ที่นอน หมอน พรม ฉนวนกันความร้อน ซึ่งไม่สามารถนำกลับมาใช้ได้อีก ขอแนะนำให้คุณนำไปทิ้งทันทีโดยไม่ต้องเสียดาย ควรทิ้งใส่ถุงมัดปากถุงให้เรียบร้อยเพื่อป้องกันการฟุ้งกระจายของเชื้อราด้วย
นอกจากนี้ เรามักพบเชื้อราในตู้แช่อาหาร ตู้เย็น อาหารซอง อาหารกระป๋อง ทางที่ดีควรทิ้งอาหารที่ขึ้นราเหล่านั้น ไม่ควรเก็บไว้กินเด็ดขาด ส่วนตู้ไม้ที่ชำรุดเสียหายจนไม่สามารถใช้งานได้อีก ก็ควรเก็บรวบรวมและนำไปทิ้ง
โบกมือลาเชื้อรา ผู้ร้ายในบ้าน
ไม่ต้องตื่นตระหนกตกใจไปหากคุณเห็นบ้านกลายเป็นที่อยู่ของเชื้อราตัวร้ายหลังน้ำท่วมบ้าน เพราะเราสามารถกำจัดให้หมดไปได้ตามหลักสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม
สิ่งเร่งด่วนที่ควรทำความสะอาดหลังน้ำลดก็คือ กำจัดเชื้อราให้ออกจากบ้านให้เร็วที่สุด ซึ่งกรมการแพทย์ได้ชี้แจงว่า ควรรีบทำความสะอาดพื้นและผนังด้วยการขัดล้างภายใน 24-48 ชั่วโมงหลังน้ำลด
ผ่าปฏิบัติการน้ำท่วมบ้าน
ก่อนอื่น เราขอชี้เป้าว่าอะไรไม่ควรทำเมื่อต้องทำความสะอาดหลังน้ำท่วมบ้านตามคำแนะนำจากกระทรวงสาธารณสุข
ข้อห้ามแรกที่ต้องจำให้ขึ้นใจก็คือ อย่าใช้ผลิตภัณฑ์ซักผ้าชนิดน้ำขาวผสมน้ำยาทำความสะอาดชนิดที่เป็นกรดหรือด่าง ถ้าผสมเข้าไปก็จะเกิดควันและไอ ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพเรา
ห้ามนำทรายที่ใช้กันน้ําเข้าประตูบ้านหรือใช้กั้นน้ำท่วมมาให้เด็กๆ เล่น หรือนำไปใช้ในสนามเด็กเล่นเด็ดขาด เนื่องจากอาจมีเชื้อโรคปะปนอยู่ หากเด็กเผลอนำทรายเข้าปากหรือเข้าตาก็มีความเสี่ยงในการติดเชื้อโรค
นอกจากนี้ ข้อห้ามอ ีกอย่างคือไม่ควรทำความสะอาดบ้านหลังน้ำท่วมด้วยมือเปล่า ควรใส่ถุงมือยาง รองเท้าบู๊ทยางและใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า เพื่อป้องกันเชื้อโรคที่กระจายอยู่ในอากาศ
คู่มือทำความสะอาดหลังน้ำท่วมบ้าน
สังเกตให้ดีด้วยตาเปล่า เราก็จะเห็นว่าเมื่อน้ำท่วมบ้านเกิน 2 สัปดาห์ เชื้อราก็จะติดอยู่บนพื้นผิวของตัวบ้าน เครื่องใช้และเฟอร์นิเจอร์ไม้ขึ้นรา เชื้อราเหล่านั้นจะเกิดเป็นดวง มีกลิ่นเหม็บอับและเป็นจุดสีต่างๆ เช่น สีขาว เหลือง แดง เขียว น้ำตาล ดำ
เจ้าเชื้อราตัวร้ายสามารถหลบซ่อนอยู่ในซอกหลืบต่างๆ ได้ด้วย เช่น วอลเปเปอร์ ฝ้าเพดาน ผนัง ใต้พื้น ใต้พรม ตู้เสื้อผ้า ตู้กับข้าว เตียงนอน ฟูก เครื่องนอน รวมไปถึงเครื่องหนัง ดังนั้นการทำความสะอาดบ้านหลังน้ำท่วมจึงต้องวางแผนให้รัดกุมเพื่อพิชิตเชื้อรา
อุปกรณ์หลัก
เสื้อและกางเกงขายาว
ถุงมือยาง
รองเท้าบู๊ทแบบที่เป็นยาง
แว่นตา
หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าเพื่อปิดปากและจมูก
ไฟฉาย
ผ้าหรือกระดาษทิชชูอย่างหนา
แปรงขัดด้านสั้นและแปรงด้ามยาว
ไม้ถูพื้น
ถุงขยะดำพร้อมที่รัดปากถุง
แอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อโรค
น้ำยาทำความสะอาด
ผงฟอกขาว
อุปกรณ์เสริม
เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง
เครื่องเป่าลม
ไฟสปอร์ตไลท์
เตรียมการรบ
ก่อนลงมือทำความสะอาดบ้านหลังน้ำท่วม ต้องตรวจสอบการรั่วของกระแสไฟฟ้าว่ามีหรือไม่ ถ้าไม่มั่นใจให้ปรึกษาช่างไฟฟ้าด่วน
ตรวจสอบความแข็งแรงของบ้านหรือตัวอาคาร เช็กประตู หน้าต่าง เพดาน ว่ายังแข็งแรงดีหรือไม่ ถ้าตรวจแล้วพบความผิดปกติ รีบปรึกษาช่างทำบ้านทันที อย่าเพิกเฉย
ควรเช็กให้ดีว่าตามพื้นบ้านมีสัตว์ร้ายหลบซ่อนอยู่หรือไม่ มีเศษแก้ว เศษโลหะ ที่เป็นอันตรายหรือเปล่า ควรนำไฟฉายติดไปด้วยเวลาสำรวจบ้านหลังน้ำลด
ควรตรวจให้ละเอียดว่ามีเชื้อราอยู่ในบ้านในจุดใดบ้าง ระวังอย่าให้เชื้อราปลิวเข้าตา จมูกหรือปาก ตรวจดูว่ามีเชื้อราในเครื่องปรับอากาศหรือไม่ ถ้ามีก็ห้ามเปิดใช้งานเด็ดขาด ถ้าพบเชื้อราในผ้าม่าน เสื้อผ้า พรม ก็ควรนำไปทิ้งขยะและมัดปากถุงให้แน่น
สุดท้ายควรเปิดประตู หน้าต่าง ให้กว้างที่สุดเพื่อให้อากาศและลมถ่ายเท พร้อมกำจัดความชื้น
ขั้นตอน
เริ่มด้วยการฉีดน้ำล้างเพื่อขัดตะไคร่และคราบสกปรกออกจากพื้นผิวต่างๆ แล้วปล่อยให้แห้ง
ไม่ควรฉีดน้ำล้างเฟอร์นิเจอร์ไม้ขึ้นราหรือถ้าเจอเชื้อราในพื้นบ้าน ควรใช้แอลกอฮอล์หรือผลิตภัณฑ์ซักผ้าชนิดน้ำผสมน้ำอัตราส่วน 1 ถ้วย (300 มิลลิลิตร) ต่อน้ำ 3.8 ลิตร เพื่อเช็ดคราบเชื้อรา แล้วทิ้งไว้ 15-30 นาที ก่อนล้างออกด้วยน้ำสะอาด
อีกสองสูตรน้ำยาฆ่าเชื้อราง่ายๆ ที่เราทำเองได้จากของในบ้าน โดยนำกระดาษชุบน้ำส้มสายชู 5-7 % หรือชุบแอลกอฮอล์ที่มีความเข้มข้น 60-90% เช็ดเพื่อทำความสะอาดวัสดุต่างๆ
การขัดผนังปูนหรือพื้นผิวที่หยาบควรขัดด้วยแปรงชนิดแข็ง ถูพื้นผิวด้วยผงฟอกขาว 1 ถ้วยตวงผสมน้ำ 1 แกลลอน
เสื้อผ้าที่มีเชื้อราและมีกลิ่นอับ ควรฆ่าเชื้อด้วยการซักล้างและต้มในน้ำร้อน แล้วนำไปตากแดดและผึ่งลมในที่แจ้ง ส่วนเสื้อผ้าที่มีกลิ่นอับชื้น
เครื่องครัวต่างๆ ให้ทำความสะอาดฆ่าเชื้อด้วยน้ำยาล้างจาน และล้างในน้ำยาฟอกผ้าขาวที่ผสมน้ำในอัตราส่วน 1 ต่อ 4 ในน้ำ 10 ลิตร และล้างด้วยน้ำร้อนอีกครั้ง
ควรนำข้าวของเครื่องใช้ที่ขึ้นรา ออกไปทำความสะอาดนอกบ้าน
บริเวณห้องน้ำและฝาผนังที่อับชื้น ควรทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรคด้วยน้ำผสมคลอรีน 3/4 ถ้วย ต่อน้ำ 1 แกลลอน
เมื่อทำความสะอาดฆ่าเชื้อเสร็จแล้ว ขอย้ำอีกครั้งให้เปิดหน้าต่างและประตูทุกบาน เปิดออกให้กว้างที่สุดเพื่อให้แสงแดดและลมพัดเข้าไปในบ้านได้อย่างทั่วถึง
หลังจากทำความสะอาดบ้านหลังน้ำท่วมและกำจัดเชื้อราแล้ว ควรอาบน้ำชำระร่างกายให้สะอาดทันที เพื่อสุขอนามัยที่ดี
ทิปส์เด็ดเคล็ดลับ
ถ้าอยากให้พื้นผิวและสิ่งของต่างๆ แห้งเร็วขึ้นหลังจากทำความสะอาดบ้านหลังน้ำท่วม
ลองใช้ไฟสปอตไลต์ส่องดูนะจ๊ะ
วิธีทดสอบว่าบ้านแห้งหรือยัง
หลังจากน้ำท่วมบ้าน เราควรระบายอากาศออกให้มากที่สุด ปล่อยให้ข้าวของแห้ง วิธีทดสอบง่ายๆ ว่า ภายในบ้านแห้งหรือไม่ แนะนำให้ใช้พลาสติกขนาดกว้าง 1 เมตร ยาว 1 เมตร ปิดทับลงบนพื้นบ้านด้วยเทปกาวปิดทั้งสี่ด้าน แล้วทิ้งไว้ 24 ชั่วโมง หากยังมีละอองน้ำเกาะที่พลาสติกด้านในแสดงว่าบ้านยังมีความชื้นอยู่ ควรทดสอบซ้ำๆ จนกระทั่งไม่มีละอองน้ำเกาะอยู่
ภัยใกล้ตัว! พัดลมและแอร์ตัวแพร่เชื้อรา
ในระหว่างหรือหลังจากทำความสะอาดบ้านหลังน้ำท่วมเสร็จแล้ว ไม่ควรเปิดพัดลมหรือเครื่องปรับอากาศเด็ดขาด การเปิดพัดลมและแอร์คอนดิชั่นจะทำให้สปอร์เชื้อราฟุ้งกระจายไปทั่วบ้าน
ต่อให้เชื้อราที่ตายแล้วก็มีโอกาสทำให้เราเกิดปฏิกิริยาแพ้ได้ โดยเฉพาะคนที่มีอาการภูมิแพ้ หากหายใจหรือสูดดมสปอร์ของเชื้อราเข้าไปก็จะน้ำตาน้ำมูกไหล หายใจไม่ออก หอบหืด เกิดผื่นที่ผิวหนัง
นอกจากเชื้อราแล้ว เราควรเพิ่มความระวังในเรื่องตะไคร่น้ำและฝุ่นบ้านด้วย โดยเฉพาะบ้านที่มีเด็กเล็กๆ ซึ่งอาจมีอาการภูมิแพ้เกิดขึ้นหลังน้ำลด
คุณพ่อคุณแม่ควรสอดส่องให้ดีว่าเจ้าตัวเล็กมีอาการแพ้ เช่น มีอาการไอจาม คัดจมูก ระคายเคืองที่ตา น้ำตาไหล มีผื่นตามผิวหนัง (แขน ขา แก้ม) หรือมีอาการคัน แน่นหน้าอก หายใจไม่สะดวก เป็นหอบ ทางกรมการแพทย์ได้เน้นย้ำว่า บางรายอาจมีอาการรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตจากการเกิดภาวะ อะนาฟัยแลกซิส (anaphylaxis) เราจึงต้องเน้นทำความสะอาดฆ่าเชื้อ (ด้วยความร้อน) สิ่งของใกล้ตัวเด็กต่างๆ เช่น ปลอกหมอน ผ้าห่ม อีกทั้งอย่ามองข้ามโรคหน้าฝนและยุงตัวร้ายด้วยนะ
ควรฆ่าเชื้อเครื่องปรับอากาศอย่างไร
หลังน้ำท่วมบ้าน ควรเช็ดด้านนอกของแอร์ด้วยแอลกอฮอล์ เมื่อผึ่งไว้จนแห้งแล้ว ก็ควรถอดแผ่นกรองออก แล้วนำแยกไปเช็ดด้วยแอลกอฮอล์ ต่อจากนั้นควรทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศด้วยน้ำยาทำความสะอาด เช็ดซ้ำด้วยน้ำสะอาดและพยายามทำให้แห้ง แต่ยังไม่ควรเปิดแอร์จนกว่าจะแน่ใจว่ากำจัดเชื้อราจนเกลี้ยง
6 วิธีจัดการเฟอร์นิเจอร์หลังน้ำท่วมบ้าน
ถ้าเราดูเผินๆ เราอาจไม่รู้หรอกว่าเฟอร์นิเจอร์หรือของตกแต่งบ้านที่เสียหายหลังน้ำลดยังคงใช้งานได้หรือไม่ สิ่งแรกที่ต้องทำคือ ไล่ความชื้นออกจากเฟอร์นิเจอร์ให้มากที่สุด แล้วจัดการแยกประเภทตามนี้
เฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากไม้จริง
เราสามารถกำจัดคราบสกปรกและตะไคร่น้ำออกได้ด้วยแปรงขนอ่อนชุบน้ำสบู่หรือน้ำยาล้างจาน เช็ดให้แห้ง และนำไปวางไว้ในที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก เพื่อให้ไม้คายความชื้นออกมา ไม่ควรนำเฟอร์นิเจอร์ไม้ตากแดดเด็ดขาด เพราะไม้อาจจะแตกหรือเสียรูปได้ เมื่อกำจัดความชื้นออกจากไม้จนหมดแล้ว ก็คืนชีพเฟอร์นิเจอร์ไม้ด้วยการทาสีหรือแลกเกอร์เพื่อให้เงางาม
วิธีทดสอบง่ายๆ ว่าเฟอร์นิเจอร์ไม้คลายความชื้นหมดหรือยัง ทำได้ด้วยการนำเทปกาวแปะแผ่นพลาสติกลงไปบนพื้นผิวเฟอร์นิเจอร์ ทิ้งไว้ 1-2 วัน หากยังมีไอน้ำเกาะที่พลาสติกแสดงว่ายังคงมีความชื้นอยู่
เฟอร์นิเจอร์ไม้อัด
หากโดนน้ำท่วมปริมาณมากและเฟอร์นิเจอร์ไม้ขึ้นราเต็มๆ จนเสียสภาพ ไม้บวมและยุ่ยมาก เราขอแนะนำว่าควรทิ้งทันที แต่ถ้าถูกน้ำเพียงเล็กน้อยก็สามารถไล่ความชื้นได้ด้วยการนำมาวางไว้ในที่ร่ม
เฟอร์นิเจอร์และวัสดุโลหะ
บานพับ บานประตู ลูกบิด และรูกุญแจ มักทำจากโลหะ หลังน้ำท่วมบ้านควรเช็ดให้แห้งสนิทและขัดสนิมออกให้หมด ก่อนจะทาน้ำยาหล่อลื่นตามรอยต่อต่างๆ ไม่ควรทาด้วยจาระบีหรือขี้ผึ้งเพราะจะทำให้ความชื้นระเหยออกไปไม่ได้
สำหรับโลหะที่เป็นสนิม เหล็ก ทองแดง ทองเหลือง รวมไปถึงสแตนเลส อลูมิเนียม หากถูกความชื้นสูง หรือแช่น้ำเป็นเวลานาน จะทำให้เกิดสนิมหรือเป็นคราบหมองได้ แต่ก็ยังแก้ไขในเบื้องต้นได้ด้วยการใช้แปรงขนนุ่มขัดสนิมออกให้หมด หรือจะทุ่นแรงด้วยการใช้น้ำยาขัดสนิม จากนั้นทิ้งไว้ให้แห้ง เมื่อแห้งสนิทดีแล้ว ควรทาสีทับเพื่อคืนชีพให้เฟอร์นิเจอร์และป้องกันสนิทไปในตัว
เฟอร์นิเจอร์หนัง
นำสบู่ที่มีส่วนผสมของมอยซ์เจอร์ไรเซอร์ เทลงบนแปรงขนนุ่มหรือผ้าที่เปียกหมาดๆ แล้วทำให้เกิดฟองก่อนจะนำไปเช็ดถูเครื่องหนัง ห้ามให้เปียกน้ำจนเกินไป นำผ้าเช็ดฟองสบู่ออกก่อนจะใช้ผ้าขนหนูแห้งๆ เช็ดซ้ำ ต่อจากนั้นคืนชีพเฟอร์นิเจอร์หนังด้วยครีมบำรุง ไม่ควรนำเฟอร์นิเจอร์หนังไปตากแดดเพราะหนังอาจแตกและสีซีดจาง
เฟอร์นิเจอร์ผ้า
ถ้าเป็นแบบสำเร็จรูปที่ถอดออกมาทำความสะอาดไม่ได้ แนะนำให้ทิ้งทันทีหากโดนน้ำขังเป็นเวลานาน เพราะผ้าเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคและส่งกลิ่นเหม็นอับ
เฟอร์นิเจอร์หินหรือกระจก
แม้จะเป็นวัสดุที่ทนแดด ทนฝน แต่หากโดนน้ำท่วมขังนานๆ ก็จะก่อให้เกิดคราบสกปรกได้ง่ายๆ วิธีแก้ไขเบื้องต้น ใช้ผ้าหรือแปรงที่มีขนอ่อนนุ่ม ขัดถูด้วยน้ำยาทำความสะอาด
ยิ้มได้แม้ภัยมา
ภัยพิบัติจากอุทกภัยส่งผลเสียหายต่อคนไทยมามากต่อมาก ตอนน้ำท่วมบ้านก็เดือดร้อนสาหัสแล้ว แต่การกู้คืนหลังน้ำลดนี่สิหนักกว่าหลายเท่า อย่างไรก็ตามเรามั่นใจว่าคู่มือคืนชีพบ้านหลังน้ำท่วมบ้านฉบับมินิจะเป็นเพื่อนที่แสนดีของคุณในยามวิกฤติ ถือคติที่ว่าน้ำท่วมก็ให้มันท่วมไป แต่อย่าให้ท่วมใจของเราก็พอ
“ท่วมได้ก็แก้ได้” นะจ๊ะ
วิธีทำให้พรมและเบาะแห้งหลังน้ำท่วม
น้ำท่วมอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อพรมและเบาะได้ บทความนี้จะแนะนำวิธีการทำให้พรมและเบาะแห้งหลังน้ำท่วมอย่างมีประสิทธิภาพ
วิธีทำให้พรมและเบาะแห้งหลังน้ำท่วม
ดูดน้ำออกจากพรมและเบาะด้วยเครื่องดูดฝุ่น
วางพรมและเบาะในที่ร่มและที่มีลมโกรก
ใช้พัดลมหรือเครื่อง เป่าผมช่วยในการทำให้แห้ง
ตรวจสอบพรมและเบาะเป็นระยะเพื่อดูว่าแห้งสนิทหรือไม่
เคล็ดลับ
หลีกเลี่ยงการตากพรมและเบาะกลางแดดจัด
ห้ามใช้สารเคมีในการทำความสะอาดพรมและเบาะ
ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหากพรมและเบาะมีความเสียหายรุนแรง
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณ อย่าลืมว่าการดูแลรักษาพรมและเบาะของคุณอย่างถูกต้องจะช่วยให้พรมและเบาะของคุณดูดีและคงทนนานขึ้น