Unilever logo
Cleanipedia logo

รู้ก่อนซื้อ! วิธีเลือกผลิตภัณฑ์ซักผ้าอย่างชาญฉลาด

เลือกและใช้อย่างไรให้ได้ประสิทธิภาพและความคุ้มค่าสูงสุด

อัปเดตเมื่อ

เวลาอ่าน: นาที

เลือกน้ำยาซักผ้าสีอย่างไรดี เรามีคำตอบ

การซักผ้าที่ถูกวิธีและเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ซักผ้าที่เหมาะสมจะช่วยให้ผ้าสีมีสีสันสดใสไม่ซีดจาง ส่วนผ้าขาวก็ต้องขาวสว่างไม่หมอง แต่จะเลือกอย่างไรดีเพราะมีตัวเลือกมากมายในท้องตลาด เรามีวิธีเลือกผลิตภัณฑ์ซักผ้ามาฝาก

รู้ก่อนเลือก

น้ำยาซักผ้าขาวโดยทั่วไปจะมีส่วนประกอบเป็นสารฟอกขาว 2 ประเภท ได้แก่ สารฟอกขาวประเภทคลอรีน (Chlorine bleach) ได้แก่ โซเดียมไฮโปคลอไรต์ (Sodium hypochlorite) โซเดียมไดคลอโรไอโซไซยานูเรท (Sodium dichloroisocyanurate) กรดไตรคลอโรไอโซไซยานูริก (Trichloroisocyanuric acid) และสารฟอกขาวประเภทออกซิเจน (Oxygen bleach) ได้แก่ ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ (Hydrogen peroxide) โซเดียมคาร์บอเนตเพอรอกซีไฮเดรต (Sodium carbonate peroxyhydrate) เป็นต้น

สารดังกล่าวล้วนเป็นสารอันตรายทั้งสิ้น ดังนั้น ก่อนซื้อควรสังเกตฉลากว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจาก อย. ถูกต้องหรือไม่ และต้องระบุรายละเอียดเกี่ยวกับปริมาณสารสําคัญ เลขทะเบียนวัตถุอันตรายทางสาธารณสุข (วอส.) ในกรอบเครื่องหมาย อย. หรือเลขที่รับแจ้ง วิธีใช้ สรรพคุณ คําเตือน วิธีการเก็บรักษา อาการเกิดพิษ วิธีแก้พิษเบื้องต้น รวมทั้งระบุชื่อและที่ตั้งของผู้ผลิต ผู้นําเข้าหรือผู้จัดจําหน่าย อย่างชัดเจน

เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน ควรอ่านฉลากให้ละเอียดและปฏิบัติตามคำแนะนำบนฉลากอย่างเคร่งครัด ควรใช้อย่างระมัดระวัง ไม่ควรสูดดม หลีกเลี่ยงไม่ให้น้ำยาสัมผัสถูกผิวหนัง กระเด็นเข้าตา หรือเข้าปาก (สวมถุงมือและสวมหน้ากากป้องกันทุกครั้งขณะใช้) ควรเก็บแยกไว้ในที่เฉพาะ ไม่ปะปนกับสิ่งของอื่นที่ใช้กับร่างกายหรือเกี่ยวข้องกับอาหารการกิน และควรเก็บให้พ้นมือเด็ก

วิธีเลือกผลิตภัณฑ์ซักผ้า

ในการเลือกซื้อน้ำยาซักผ้าขาว สามารถเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของสารฟอกขาวได้ทั้งสองประเภท คือ สารฟอกขาวประเภทคลอรีนหรือออกซิเจน แต่ถ้าต้องการใช้กับทั้งผ้าขาวและผ้าสี ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารฟอกขาวประเภทออกซิเจน

เลือกใช้ให้ถูกประเภท

ประเภทของผ้าเป็นสิ่งควรพิจารณาเป็นอันดับแรก การใช้น้ำยาซักผ้าขาวไปซักผ้าสีจะทำให้เสื้อผ้าชุดโปรดของเราด่างและสีตกได้ ส่วนการใช้น้ำยาซักผ้าสีกับผ้าขาวก็ไม่แนะนำเช่นกัน เพราะจะทำความสะอาดผ้าได้ไม่ดีเท่าที่ควร เราขอแนะนำผลิตภัณฑ์ซักผ้าที่สามารถใช้ได้ทั้งเสื้อผ้าขาวและผ้าสี เช่น โอโม พลัส หรือ บรีส เอกเซล สูตรเข้มข้น มีให้เลือกทั้งแบบน้ำและแบบผง 

ก่อนซักผ้าสี ควรทดสอบน้ำยาซักผ้าสีกับผ้าที่ต้องการซักก่อนทุกครั้งว่าสามารถซักด้วยผลิตภัณฑ์ที่ซื้อมาได้หรือไม่ โดยนำผลิตภัณฑ์ไปเจือจางกับน้ำแล้วนำไปหยดลงบนส่วนที่สังเกตเห็นได้ยาก ทิ้งไว้ประมาณ 1 นาที หากสีของผ้าไม่เปลี่ยนแปลงแสดงว่าสามารถใช้ได้

เลือกให้เหมาะกับงาน

ผลิตภัณฑ์ซักผ้าชนิดน้ำเหมาะสำหรับการใช้ร่วมกับผงซักฟอก เพื่อให้ผงซักฟอกสามารถขจัดคราบสกปรกได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ในการซักด้วยมือต้องนำน้ำยาไปเจือจางก่อนใช้ สำหรับผลิตภัณฑ์ชนิดผง บางสูตรสามารถซักได้เลยโดยไม่จำเป็นต้องใช้ร่วมกับผงซักฟอก ทั้ง 2 ชนิดสามารถใช้กับเครื่องซักผ้าได้

ราคาถูกเกินไปก็ไม่ดี

ราคาที่ถูกอาจดึงดูดใจให้เราเลือก โดยลืมคิดไปว่ามันอาจไม่มีส่วนผสมของสารขจัดคราบที่มีประสิทธิภาพเพียงพอ กลายเป็นภาระต้องซักเสื้อผ้ารอบสอง สิ้นเปลืองทั้งเวลาและทรัพยากร ได้ไม่คุ้มเสีย!

วิธีใช้น้ำยาซักผ้าอย่างชาญฉลาด

ของทุกอย่าง ถ้าเราใช้อย่างถูกวิธีจะให้ทั้งประสิทธิภาพและความคุ้มค่า น้ำยาซักผ้าก็เช่นกัน ก่อนใช้ ควรแยกผ้าสีอ่อน ผ้าสีเข้ม ผ้าสีดำ และผ้าขาวออกจากกันก่อน สำคัญที่สุด เพราะการแยกประเภทของผ้าจะช่วยป้องกันการเกิดปัญหาผ้าสีตกและยังช่วยถนอมผ้าให้ทนทานใช้ได้นานอีกด้วย

กลับด้านผ้าทุกครั้งก่อนซัก

เรื่องนี้น้อยคนจะรู้! การกลับด้านผ้าจะช่วยลดการเสียดสี ช่วยป้องกันเนื้อผ้าด้านนอกไม่ให้ถูกทำลาย ทั้งยังช่วยป้องกันสีตกใส่และป้องกันแสงแดดขณะตากผ้าได้อีกด้วย

ใช้ตามปริมาณที่แนะนำ

การใส่น้ำยาซักผ้ามากหรือน้อยเกินไปจะส่งผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพในการทำความสะอาด ดังนั้นจึงควรใช้ปริมาณน้ำยาซักผ้าตามที่แนะนำไว้บนฉลากบรรจุภัณฑ์ ซึ่งโดยทั่วไปจะระบุปริมาณผ้าที่ซัก ความสกปรก และปริมาณน้ำ การใช้ในปริมาณมากเกินไปอาจทำให้สีของผ้าซีดจางลงได้

ใช้ของให้คู่ควรกัน

เชื่อหรือไม่ว่า การใส่น้ำยาซักผ้าในปริมาณที่น้อยเกินไปเพื่อซักเสื้อผ้าในเครื่องซักผ้าที่มีถังใหญ่และประสิทธิภาพสูง จะทำให้การทำความสะอาดไม่ทั่วถึงและต้องซักผ้าใหม่

ใช้ตัวช่วยอื่นๆ ด้วย

อย่าคาดหวังกับน้ำยาซักผ้าเพียงอย่างเดียว ควรเรียนรู้วิธีกำจัดคราบสกปรกโดยใช้ตัวช่วยอื่นๆ ด้วยเช่น ขจัดคราบก่อนซักด้วยมะนาว ผสมน้ำส้มสายชูในน้ำซักผ้าเพื่อช่วยขจัดคราบ ใช้เบกกิ้งโซดาขจัดความหมอง เป็นต้น ทั้งช่วยผ่อนแรงและทำให้ผ้าสะอาดขึ้น

เคล็ดวิธีซักผ้าขาว

นอกจากน้ำยาซักผ้าขาวที่ใช้กันตามปกติแล้ว ยังมีตัวช่วยอื่นที่จะทำให้ผ้าจะสะอาดขาวเหมือนใหม่อีกครั้ง ไม่ต่างอะไรกับการใช้น้ำยาที่มีสารฟอกขาว 

  • มะนาวก็ช่วยได้ หลังใส่ผงซักฟอกหรือน้ำยาซักผ้าลงไปแล้ว ให้ใส่น้ำมะนาว ¼ ถ้วยตวงด้วย มะนาวจะช่วยให้ผ้าขาวขึ้นและลดกลิ่นอับไปพร้อมกัน  

  • เปลี่ยนผ้าหมองให้ขาวด้วยน้ำส้มสายชู โดยเติมน้ำส้มสายชูลงไปพร้อมกับผงซักฟอกในการซักผ้าปกติ เพียงแค่นี้ความขาวสะอาดจะกลับมา

  • ผสมน้ำเปล่ากับเบกกิ้งโซดา ในอัตราส่วน น้ำ 4 ลิตร ต่อ เบกกิ้งโซดา 1 ถ้วย จากนั้นนำส่วนผสมดังกล่าวไปซักผ้าขาว รับรองว่าผ้าหมองๆ จะกลับมาขาวสะอาดตา 

  • ใช้ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ (น้ำยาล้างแผล) ผสมกับน้ำเปล่าในอัตราส่วน ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ 2 ถ้วยตวง ต่อ น้ำเปล่า 4 ถ้วยตวง บวกกับ เบกกิ้งโซดา 2 ถ้วยตวง ผสมให้เข้ากัน แล้วนำผ้าขาวมาแช่ทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นนำไปซักด้วยผงซักฟอกตามปกติ

เคล็ดวิธีซักผ้าสี

ขึ้นชื่อว่าผ้าสี โอกาสที่สีจะซีดจางจากการซักและใช้งานย่อมมีแน่นอน แต่ก็มีเทคนิคการซักดีๆ ที่จะช่วยถนอมผ้าสีให้ทนนาน ใช้งานได้คุ้มค่า

  • คงสีสันด้วยน้ำส้มสายชู โดยผสมน้ำส้มสายชูลงไปในช่องใส่น้ำยาซักผ้า ½ ถ้วงตวง จะช่วยให้ผ้าสีไม่ซีดจางง่ายๆ สำหรับผ้าสีที่เพิ่งซื้อมาใหม่ๆ ให้นำผ้าไปแช่ในน้ำส้มสายชูก่อนซัก สีจะไม่ตก

  • ในการซักผ้าสี อุณหภูมิน้ำมีผลกับสีของเสื้อผ้าเป็นอย่างมาก แนะนำให้ซักด้วยน้ำอุณหภูมิต่ำหรือน้ำเย็นแทนน้ำอุ่นหรือน้ำร้อน เพราะน้ำเย็นจะช่วยรักษาเส้นใยของผ้าสีให้ยังคงทน

  • ใส่เสื้อผ้าลงไปในถุงซักผ้าก่อนทำการซัก เพื่อป้องกันไม่ให้ใยผ้าเสียดสีกับถังซัก และยังเป็นการช่วยถนอมรายละเอียดของเสื้อผ้า ไม่ให้เสียหายอีกด้วย

  • ปรับรอบการปั่นผ้าให้น้อยลงหรือปรับเป็นโหมดซักแบบถนอมผ้า เพื่อลดแรงเหวี่ยงที่จะทำให้สีของเสื้อผ้าซีดจางเร็วกว่าที่ควรจะเป็น

หลังการซักทุกครั้ง แนะนำให้ปิดท้ายขั้นตอนการทำความสะอาดผ้าสีด้วยการใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มเพื่อถนอมผ้าสีให้สดใสเหมือนใหม่ไปอีกนาน ผลิตภัณฑ์ปรับผ้านุ่มสูตรอ่อนโยนอย่าง คอมฟอร์ท ช่วยได้

เคล็ดวิธีซักผ้าสีดํา

เพราะเป็นสีดำใช่ว่าจะทำอย่างไรก็ได้ ลองเพิ่มความใส่ใจอีกสักนิด เราจะได้ใส่เสื้อผ้าสีดำตัวโปรดไปอีกนาน  

  • อย่าซักบ่อยจนเกินไป การซักบ่อยจะทำให้เสื้อผ้าสีซีดจางและดูเก่าเร็ว ถ้าเป็นเสื้อผ้าสีดำที่ใส่อยู่กับบ้านหรือไม่สกปรกมาก อาจผึ่งไว้ให้แห้งและใส่ซ้ำได้ ยกเว้นชุดชั้นใน ควรซักหลังใส่ทุกครั้ง

  • อย่าซักผ้าสีดำปนกับผ้าขาวหรือผ้าสีอื่นๆ เพื่อไม่ให้สีตกใส่กัน และควรแยกตามความหนัก-เบาของผ้าเพื่อลดโอกาสผ้าเสียดสีกันจนเนื้อผ้าเสียหาย

  • อย่าลืมกลับเสื้อผ้าเอาด้านในออกมาข้างนอกก่อนซักทุกครั้ง เพราะสีที่อยู่ด้านนอกจะซีดจางได้ง่ายกว่า ควรตากผ้าสีดำในที่ร่มและไม่แนะนำให้อบผ้า  

  • ย้อมผ้าดำด้วยน้ำชาเข้มข้น โดยต้มชาแบบเข้มข้น แล้วนำน้ำชาไปผสมกับน้ำยาปรับผ้านุ่มในน้ำสุดท้ายก่อนเครื่องซักผ้าจะปั่นแห้ง น้ำชาจะช่วยขับเสื้อผ้าดำให้ดูเข้มขึ้น

ดูแลเป็นพิเศษด้วยน้ำยาปรับผ้านุ่ม

ปิดท้ายการซักทำความสะอาดผ้าด้วยการใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มที่ช่วยให้ผ้านุ่ม มีกลิ่นหอม ใส่สบาย บางสูตรช่วยให้รีดง่าย ยับยาก ป้องกันกลิ่นอับ และผสมสารกันแดดเพื่อถนอมเสื้อผ้าให้ใช้ได้นานอีกด้วย   

วิธีใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มให้เสื้อผ้านุ่มหอมนาน

  • ควรตวงและใช้ในปริมาณที่ทางผู้ผลิตแนะนำมา เพื่อให้เกิดความเหมาะสมระหว่างปริมาณผ้าและประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์

  • กรณีซักด้วยมือ ไม่ควรเทน้ำยาลงบนเนื้อผ้าโดยตรง เพราะจะทำให้ผ้าเกิดรอยด่างได้ ควรเทน้ำยาผสมกับน้ำก่อนนำผ้าลงไปแช่

  • กรณีซักด้วยเครื่องซักผ้า ควรเทน้ำยาปรับผ้านุ่มลงในช่องที่กำหนดในปริมาณที่เหมาะสม

  • ถ้าเป็นเสื้อผ้าเด็ก ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีความอ่อนโยนสูง เพื่อป้องกันการระคายเคืองและอาการแพ้

  • ไม่ควรตากผ้าไว้ในบริเวณที่แดดจัดจนเกินไป เพราะนอกจากจะทำลายกลิ่นหอมจากน้ำยาปรับผ้านุ่มแล้ว ยังทำให้เนื้อผ้าแห้งกรอบและเสียรูปได้ง่ายอีกด้วย

รู้เคล็ดไม่ลับอย่างนี้แล้ว ก็อย่าลืมนำไปใช้ รับรองว่าเสื้อผ้าของคุณจะสีสันสดใส สะอาดมั่นใจอย่างแน่นอน

เผยแพร่ครั้งแรก