Unilever logo
Cleanipedia logo

การจัดห้องนอนให้น่าอยู่ ดูดีมีฐานะ

จัดให้ดี เศรษฐีเรียกพี่

อัปเดตเมื่อ

เวลาอ่าน: นาที

เตียงนอนที่จัดวางอย่างเรียบร้อยพร้อมเบาะรองนั่ง

ตามหลักฮวงจุ้ย ห้องนอนเป็นห้องสะท้อนความรัก ความสัมพันธ์ ความสุข สุขภาพ หน้าที่การงานและฐานะความเป็นอยู่ของผู้อาศัย การจัดห้องนอนจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก

เตียงนอนตามหลักฮวงจุ้ย อยู่แล้วเฮง

สิ่งแรกที่ควรคำนึงในการจัดห้องนอนตามหลักฮวงจุ้ยก็คือเตียงนอนและตำแหน่งที่ตั้ง ดังนี้

  • เตียงนอนควรเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยม ไม่เป็นตัวแอล ลักษณะเตียงต้องไม่ใหญ่หรือเล็ก

  • อย่าวางกระจกส่องเตียงนอน ถือว่ากระจกเป็นของหลอกลวง จะส่งผลต่อสุขภาพ

  • ไม่ควรวางเตียงขวางประตู หรือเวลาเปิดประตูมาแล้วเจอเตียงนอนทันที ควรตั้งเตียงให้เยื้องกับประตูจะดีที่สุด เพราะจะทำให้เกิดโชคลาภ รับพลังงานดี ทำงานราบรื่น ลดอุปสรรค ส่วนหลักจิตวิทยาก็ระบุว่า จะช่วยทำให้เกิดความรู้สึกปลอดภัย

  • ไม่ควรติดแอร์ตรงหัวนอน

  • ใช้สีเย็นตาในห้องนอน 

  • ไม่ควรหันหัวเตียงทางทิศตะวันตก เป็นทิศอัปมงคล

  • หัวเตียงควรทึบ ไม่มีสิ่งของกดทับอยู่บนหัวเตียง เช่น แอร์ ตู้แบบบิวล์อิน

  • ควรวางหัวเตียงชิดผนังด้านใดด้านหนึ่ง ไม่ควรเดินวนได้ 

  • คานบ้านไม่ควรตรงกับเตียงนอน ตามหลักฮวงจุ้ยเชื่อว่าผู้อยู่อาศัยจะรู้สึกเหมือนถูกกดทับ กดดันในขณะนอนหลับ

  • ห้ามวางหัวเตียงตรงกับประตู จะส่งผลกระทบเชิงลบต่อชีวิตประจำวัน มีอุปสรรคและเจ็บป่วยง่าย

ห้องนอนคือห้องสำหรับนอนหลับพักผ่อน ชาร์ทแบตเตอรี่ให้ร่างกาย ไม่ใช่ห้องทำงาน กินอาหาร หรือดูทีวีนะจ๊ะ

จัดห้องนอนผิดหลัก กักพลังงานด้านลบ กลบพลังบวก

หนึ่งเรื่องคาใจสำหรับการจัดห้องนอนให้น่าอยู่ตามหลักฮวงจุ้ยก็คือ ผนังห้องนอนติดอยู่กับห้องน้ำ ห้องครัว ห้องเก็บของ ระเบียงที่มีคนเดินผ่านไปมา หรือหันหัวนอนไปทางสามแพร่ง สิ่งเหล่านี้ควรหลีกเลี่ยงเด็ดขาด เพราะพลังงานด้านลบจากห้องน้ำและจุดดังกล่าวจะส่งผลต่อสุขภาพ อาจเกิดโรคระบบหัวใจและหลอดเลือด

นอกจากนี้ยังส่งผลทำให้กลายเป็นคนที่มีอารมณ์รุนแรง โดยเฉพาะถ้าหลังห้องนอนเป็นระเบียงทางเดิน จะทำให้เป็นคนที่หงุดหงิดง่าย ขาดสมาธิในการทำงาน

ฮวงจุ้ย

แก้ฮวงจุ้ยห้องนอน!

จัดห้องนอนตามหลักฮวงจุ้ยพิจารณาได้จากตำแหน่งบริเวณประตูและหน้าต่าง เปรียบเสมือนปากทางพลัง ซึ่งมีทั้งพลังงานด้านดีและร้ายที่จะพุ่งเข้ามา อาจทำให้ผู้อาศัยเหนื่อยง่าย เจ็บป่วยบ่อยหรือเกิดอุบัติเหตุเล็กๆ น้อยๆ อยู่เนืองๆ

เปิดห้องนอนแล้วเจอห้องน้ำ

การจัดห้องนอนที่มีห้องน้ำในตัว หรือประตูห้องนอนตรงกับประตูห้องน้ำพอดี (มักเกิดกับบ้านจัดสรรหรือบ้านที่มีพื้นที่จำกัด) แต่ไม่ต้องกังวลว่าจะต้องทุบทิ้งหรือทำใหม่ วิธีแก้ไขง่ายๆ ก็คือ ปิดประตูห้องน้ำตลอดเวลา เพื่อสกัดกั้นไม่ให้พลังงานเชิงลบเข้ามาในห้องนอน

อีกทั้ง ตำแหน่งของห้องนอนไม่ควรมีห้องน้ำอยู่ด้านบนห้องหรืออยู่เหนือตำแหน่งเตียง เพราะห้องน้ำถือเป็นที่ระบายสิ่งสกปรก ผู้อาศัยจะได้รับพลังงานลบ เหมือนได้รับของเสียจากห้องน้ำอยู่เป็นประจำ

เตียงนอนตั้งอยู่ระหว่างประตูกับหน้าต่าง

ตามหลักฮวงจุ้ยไม่ควรวางเตียงไว้ระหว่างหน้าต่างกับประตู เตียงนอนจะขวางทางผ่านของพลังงาน ทำให้พลังงานลบเข้ามาปะทะในขณะนอนหลับ ทั้งยังส่งผลต่อสุขภาพ ร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอและ สุขภาพอ่อนแอ ทางแก้ก็คือควรย้ายเตียงไปยังมุมใดมุมหนึ่งของห้อง ให้หัวเตียงชิดผนัง หรือติดม่านแบบผ้าย้วยๆ ที่หน้าต่าง หลีกเลี่ยงมูลี่

ตำแหน่งเตียงนอนใต้หน้าต่าง

การวางเตียงนอนใต้หน้าต่างจะลดทอนพลังงานบวกทั้งในและรอบๆ เตียงนอนให้อ่อนกำลังลง ที่สำคัญตามศาสตร์ฮวงจุ้ย ผู้นอนอาจมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคซึมเศร้า และขาดการสนับสนุนจากผู้คนรอบข้าง

หากย้ายเตียงไม่ได้ ควรแก้ไขด้วยการปรับหัวเตียงนอนให้สูงขึ้นกว่าเดิมและเสริมให้แข็งแรงขึ้น โดยติดผ้าม่านหน้าต่างเพื่อปิดแสงจากนอกหน้าต่างในเวลากลางคืน ซึ่งจะช่วยป้องกันพลังงานลบจากตำแหน่งการจัดวางเตียงนอนดังกล่าวได้

ตำแหน่งเตียงนอนตั้งอยู่แนวเดียวกับประตู

ตามหลักฮวงจุ้ยนั้น เตียงนอนตรงจุดนี้อยู่ในตำแหน่งที่พลังงานลบพุ่งเข้าหาอย่างรุนแรง ส่วนพลังงานบวกกลับไหลออกจากเตียงนอนผ่านออกไปนอกประตูอีกต่างหาก ควรย้ายเตียงนอนหรือถ้าย้ายไม่ได้ ก็ควรหาแผ่นวางเท้ามาวางบนพื้นให้เห็นชัดเจน และหาเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่มาวางกั้นระหว่างเตียงและประตูห้องนอน

ยกตัวอย่างง่ายๆ ลองหาม้านั่งพร้อมหมอน ผ้าคลุม หรือเก้าอี้เบาะหนัง มาไว้ตรงบริเวณปลายเตียง เพื่อเพิ่มความมั่นคงแข็งแกร่งให้กับเตียงนอนและปกป้องพลังงานลบที่พุ่งเข้ามาหาเราขณะนอนหลับ

9 สิ่งไม่ควรมีในห้องนอน

การจัดห้องนอนให้น่าอยู่ควรเน้นให้ภายในห้องมีพลังงานหยินซึ่งเป็นพลังสงบ ในขณะที่พลังหยางจะทำให้ตื่นต้ว

  • หิ้งพระหรือพระพุทธรูป ควรแยกห้องพระให้เป็นสัดส่วน หรือหาฉากมากั้นหิ้งพระสำหรับบ้านที่มีพื้นที่จำกัด อาจมีปัญหาสุขภาพ โรคเรื้อรัง มีปัญหาด้านการเงินอีกด้วย

  • รูปถ่ายบรรพบุรุษ รูปถ่ายที่ใส่ชุดดำ หรือภาพไปงานศพ

  • เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิสก์ เช่น โทรทัศน์ ตู้เย็น ไมโครเวฟ คอมพิวเตอร์ เพราะจะทำให้มีพลังพยาง (ความร้อน) มากเกินไป

  • ของมีคมที่หันมาทางเตียงนอน จะทำให้ผู้อยู่อาศัยเจ็บป่วยและถูกใส่ร้ายเปรียบเสมือนของมีคมทิ่มแทงอย่างไรอย่างนั้น เช่น โมบายดวงดาวห้อยระย้า ราวแขวนเสื้อ เหล็กดัด ของตกแต่งที่มีมุมแหลมคม เช่น เขาสัตว์ รวมถึงเสาบ้านที่มีมุม วิธีแก้คือหาตู้ ชั้นวางของหรือผ้าพริ้วๆ มาปิดบังมุมเสา หมั่นทำความสะอาด หรือออกแบบเสาให้โค้งมน

  • ปลั๊กไฟชาร์ตโทรศัพท์มือถือ ทีวี อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ วางอยู่ข้างหัวนอน จะส่งผลให้อารมณ์แปรปรวน หรือเปิดคลิปทางมือถือฟังจนหลับไป ตื่นมาก็จะเพลีย ควรแก้ไขด้วยการจัดปลั๊กไฟให้ห่างออกไป 3-5 เมตร

  • ไม่ควรมีรูปอวมงคล ภาพแสดงถึงความโดดเดี่ยวหรือหดหู่ การเอาชนะ การแข่งขัน เพศสัมพันธ์ หรือรูปกะโหลก เสือ ม้า จะส่งผลให้พลังชีวิตแปรปรวนและเกิดโรคเรื้อรัง ควรหาภาพที่มีความสุข มีรอยยิ้ม มีความสงบ จะได้เสริมดวงความสัมพันธ์ เกิดพลังงานชีวิต ส่งเสริมสุขภาพและหน้าที่การงาน

  • ไม่ควรวางนาฬิกา ลูกตุ้ม วัตถุที่มีความเคลื่อนไหวในห้องนอน

  • ไม่ควรตั้งตู้ปลา อ่างบัว อ่างน้ำพุไว้ในห้องนอน พลังน้ำที่มีมากเกินไปจะส่งผลต่อความมั่นคงในชีวิต อีกทั้งความชื้นก็จะทำให้เกิดปัญหาสุขภาพ

  • ไม่ควรมีโคมไฟ พัดลม หลอดไฟ ติดอยู่ตรงผนังกลางเตียง จะให้ความรู้สึกเหมือนมีอะไรกดทับ นอนหลับไม่สนิท เกิดความกังวล เกิดปัญหาสุขภาพบริเวณอวัยวะที่อยู่ตรงกับโคมไฟและพัดลม

ขอให้พึงระลึกว่า สิ่งของต่างๆ ในห้องนอนมีผลต่อฮวงจุ้ยทั้งสิ้น ดังนั้นการจัดห้องนอนให้น่าอยู่และเคล็ดลับการจัดห้องนอนจึงเป็นเรื่องสำคัญ

เสริมพลังในห้องนอนให้ปังสุดขีด

ควรหันหัวเตียงให้ติดกำแพง กำแพงเป็นตัวเสริมพลังงานที่ดี ไม่ควรมีพื้นที่ว่างตรงหัวเตียง เชื่อกันว่าจะทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัย ฝันร้ายและร่างกายอ่อนแอตามศาสตร์การจัดห้องนอน

ถ้าลูกบิดประตูห้องนอนมีเสียงเอียดอ้าด หรือลูกบิดชำรุด ควรรีบซ่อมแซมปรับเปลี่ยน เพราะอาจส่งผลต่อโชคลาภและความสัมพันธ์กับคนรัก

ปลายเตียงเรียกพลังบวก

การจัดห้องนอนตามหลักฮวงจุ้ยควรมีที่ว่างตรงปลายเตียงให้กว้างๆ เรียกว่า ‘เฮ้ากวง’ หมายถึงแสงออร่าที่มีฟ้าต่อดิน ดินต่อน้ำ เฮ้ากวงคือพลังฮวงจุ้ยที่สำคัญและจำเป็นมาก

หากในห้องนอนอบอวลไปด้วยรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ รวมถึงอ้อมกอดและแววตาที่อบอุ่นของคนในห้องนอนนั้นๆ

พลังของความรักจึงเป็นฮวงจุ้ยที่ดีและเป็นพลังที่งดงาม

ประวัติฮวงจุ้ย?

ประวัติศาสตร์ของฮวงจุ้ยเป็นเรื่องที่น่าสนใจ! ฮวงจุ้ยเป็นศาสตร์ด้านการจัดวางองค์ประกอบในสถาปัตยกรรมและการตกแต่งที่มีต้นกำเนิดในประเทศจีนอันโบราณ ศาสตร์นี้เน้นการสร้างสรรค์สมดุลและสามารถปรับปรุงชีวิตและโชคลาภของบุคคลได้ ฮวงจุ้ยได้รับความนิยมในทวีปเอเชียและกลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมไปจนถึงปัจจุบัน ผู้ศึกษาฮวงจุ้ยใช้หลักการเชิงศาสตร์และปัญญาประยุกต์เพื่อปรับปรุงสถาปัตยกรรมและการจัดวางบริเวณให้เหมาะสม ศาสตร์ฮวงจุ้ยยังคงเป็นที่น่าสนใจและใช้ในการออกแบบทั้งในบ้านและสถาปัตยกรรมเพื่อสร้างสุขภาพและความสมดุลในชีวิตของเรา!

ข้อเสียของศาสตร์ฟังชว์

ศาสตร์ฟังชว์เป็นระบบที่มีประสิทธิภาพในการจัดห้องและพื้นที่ให้มีการไหลของพลังงานที่เชื่อมโยงกับความสงบและความเจริญรุ่งเรือง แต่ก็ยังมีข้อเสียบางประการที่ควรพิจารณาเมื่อคุณตัดสินใจที่จะใช้ศาสตร์ฟังชว์ในชีวิตประจำวันของคุณด้วย ข้อเสียเหล่านี้รวมถึง:

  1. ความซับซ้อน: ศาสตร์ฟังชว์มีหลักการและกฎบางอย่างที่ซับซ้อนและยากต่อการเข้าใจและการใช้ในชีวิตประจำวัน การนำศาสตร์ฟังชว์มาใช้ในทุกส่วนของบ้านอาจจะทำให้คุณต้องลงทุนเวลาในการศึกษาและปฏิบัติอย่างถูกต้อง

  2. ต้องการการปรับเปลี่ยน: การใช้ศาสตร์ฟังชว์อาจต้องการการปรับเปลี่ยนหรือการเรียบเรียงสถานที่ของคุณ ซึ่งอาจเสียเวลาและค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในกรณีที่คุณต้องซื้อเฟอร์นิเจอร์หรือทำการปรับปรุงบ้าน

  3. ข้อจำกัดของพื้นที่: การปฏิบัติศาสตร์ฟังชว์บางรายการอาจจำเป็นต้องใช้พื้นที่มากขึ้น ซึ่งอาจไม่เหมาะกับบ้านหรืออพาร์ทเมนต์ที่มีพื้นที่จำกัด

  4. ความเชื่อถือ: ศาสตร์ฟังชว์เป็นระบบที่เชื่อมโยงกับความเชื่อและความศรัทธา เรื่องนี้อาจทำให้คุณต้องพิจารณาถึงความเชื่อและค่านิยมของคุณ และอาจไม่เหมาะสมสำหรับทุกคน

  5. ไม่มีหลักฐานวิชาศาสตร์: ศาสตร์ฟังชว์ไม่มีหลักฐานวิชาศาสตร์ที่มีหลักฐานและการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์อย่างชัดเจน การตัดสินใจใช้ศาสตร์ฟังชว์อาจจะขึ้นอยู่กับความเชื่อส่วนบุคคล

  6. ความสับสนใจ: การศึกษาและปฏิบัติศาสตร์ฟังชว์อาจทำให้คุณรู้สึกสับสนหรือไม่แน่ใจเกี่ยวกับการจัดห้องหรือการปรับเปลี่ยนภูมิทัศน์ภายในบ้าน

  7. ขึ้นอยู่กับผู้ให้คำปรึกษา: การรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญในศาสตร์ฟังชว์เป็นสิ่งสำคัญ เพราะผู้ให้คำปรึกษาคนแต่ละคนอาจมีมุมมองและแนวคิดที่แตกต่างกัน

  8. ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม: การปรับปรุงบ้านหรือซื้อวัตถุดิบเพิ่มเติมสำหรับการปฏิบัติศาสตร์ฟังชว์อาจต้องใช้งบประมาณเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจไม่เหมาะสมกับงบประมาณของคุณ

การใช้ศาสตร์ฟังชว์เป็นเรื่องส่วนบุ

เผยแพร่ครั้งแรก