Unilever logo
Cleanipedia logo

10 ประโยชน์ของเบกกิ้งโซดา ไม่รู้ไม่ได้แล้ว

เบกกิ้งโซดาพาเพลิน เชิญใช้บริการเบกกิ้งโซดาขัดผิว ซักผ้า คลีนนิ่ง ดับกลิ่น และอีกหลายประโยชน์ของเบกกิ้งโซดา

อัปเดตเมื่อ

ผงฟู

เบกกิ้งโซดา เมื่อเห็นคำนี้ก็เห็นภาพคุกกี้และเค้กฟูนุ่มลอยตามมาทันที แต่เบกกิ้งโซดาไม่ได้มีดีแค่นั้น ประโยชน์ของเบกกิ้งโซดามีมากมายให้น่าค้นหา และถ้าคุณรู้ ชีวิตคุณจะง่ายขึ้นเป็นกอง 

ที่มาไม่ธรรมดาของเบกกิ้งโซดา 

เบกกิ้งโซดามีการใช้งานมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่สมัยกระบวนการทำมัมมี่ของชาวอียิปต์ที่ใช้แร่เนทรอนจากทะเลสาบที่แห้ง ซึ่งมีส่วนประกอบของโซเดียม ไบคาร์บอเนต

ในยุคต่อมาได้มีการนำเบกกิ้งโซดามาใช้แทนยีสต์ในการทำให้ขนมปังและเบเกอรี่ฟู เพราะนอกจากจะดีต่อคนที่แพ้ยีสต์แล้ว การทำให้แป้งฟูยังเร็วกว่าและขึ้นฟูแน่นอนแบบไม่ต้องลุ้น 

ภายหลังก็มีการนำเบกกิ้งโซดามาใช้สำหรับทำความสะอาด ถือเป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในวันคุ้มครองโลกปีแรก 

เมื่อครั้งที่เทพีเสรีภาพครบรอบ 100 ปี ก็ได้มีการนำเบกกิ้งโซดาไปใช้ทำความสะอาดผนังทองแดงด้านในจนคราบที่สะสมมา 99 ปีหลุดออกหมด 

เบกกิ้งโซดาคืออะไรกันแน่

เบกกิ้งโซดามีชื่อทางเคมีว่า โซเดียม ไบคาร์บอเนต ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มของเกลือ จึงมีรสชาติเค็มและมีลักษณะเป็นผลึกสีขาวที่ละลายน้ำได้ เบกกิ้งโซดามีความเป็นด่างทำให้มีรสชาติขมและเฝื่อน แต่ไม่มีกลิ่น  

ด้วยความเป็นด่าง เบกกิ้งโซดาจึงทำปฏิกิริยากับกรดและของเหลวทำให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ โดยปฏิกิริยานี้จะเพิ่มขึ้นเมื่อมีความร้อนเข้ามากระตุ้น 

คุณสมบัติทั้งหมดนี้ก่อให้เกิดประโยชน์ของเบกกิ้งโซดาที่เรานำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้มากมาย 

10 ประโยชน์ของเบกกิ้งโซดา หาสิ่งใดเทียบได้ยาก

คุณอาจไม่เชื่อว่าเจ้าเบกกิ้งโซดาที่อยู่ในตู้ห้องครัวสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้สารพัดรูปแบบ แถมไม่มีสารพิษและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

อาหารและขนม

นอกจากการใช้เบกกิ้งโซดาในการทำขนมอบเพื่อให้ฟูนุ่มอย่างที่เราคุ้นเคยกันแล้ว เบกกิ้งโซดายังนำมาใช้กับอาหารอื่นๆ ได้อีกด้วย

ไข่เจียวฟู - หากคุณอยากให้ไข่เจียวเหลืองๆ ดูฟูขึ้นน่ากิน ให้คุณเติมเบกกิ้งโซดาลงไปเล็กน้อย โดยสัดส่วนที่แนะนำคือเบกกิ้งโซดา ½ ช้อนชาสำหรับไข่ 3 ฟอง 

หมักเนื้อสัตว์ - ลืมปัญหาเนื้อเหนียวไปได้เลยถ้าคุณใส่เบกกิ้งโซดาไปด้วยในน้ำซอสหมัก แถมจะทำให้เนื้อนุ่มขึ้นด้วย แนะนำให้ใส่ไม่เกิน 1 ช้อนชาต่อเนื้อ 1 กิโลกรัม เพราะหากมากไปอาจทำให้เนื้อมีรสชาติเฝื่อน 

ล้างผักและผลไม้ - การใช้เบกกิ้งโซดาล้างผักและผลไม้ช่วยล้างสารพิษที่อาจตกค้างอยู่ ก่อนอื่นให้คุณปัดเศษดินที่ติดอยู่บนผักและผลไม้ออกให้หมดก่อน ผสมเบกกิ้งโซดา ½ ช้อนโต๊ะในน้ำ 10 ลิตร แช่ผักและผลไม้ทิ้งไว้ 15 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำเปล่าหลายๆ รอบเพื่อให้แน่ใจว่าสารพิษและเบกกิ้งโซดาหลุดออกหมด  

การทำความสะอาด

เบกกิ้งโซดาใช้ทำความสะอาดได้หลายพื้นผิวในหลายพื้นที่ในบ้าน ทั้งคราบเบาและคราบฝังแน่น รวมไปถึงการกำจัดสนิม

พื้นห้อง - การใช้เบกกิ้งโซดาเช็ดพื้นทำให้ไม่มีสารเคมีตกค้าง จึงไม่ระคายเคืองผิวเวลาคุณเดินหรือสัมผัสพื้น เตรียมน้ำยาเช็ดพื้นโดยผสมเบกกิ้งโซดา ½ ถ้วยตวงในน้ำอุ่น 1 ถัง แล้วใช้ไม้ถูพื้นจุ่มส่วนผสมเช็ดพื้น เช็ดตามอีกครั้งด้วยน้ำอุ่นเป็นอันเสร็จ 

ในส่วนของไม้ถูพื้น เมื่อใช้ไปสักพักอาจมีสิ่งสกปรกและกลิ่นสะสม คุณคงไม่อยากให้ความสกปรกบนไม้ถูพื้นไปเพิ่มบนพื้นห้อง ให้คุณล้างสิ่งสกปรกออกไปก่อน จากนั้นแช่ไม้ถูพื้นในส่วนผสมเบกกิ้งโซดา 4 ช้อนชาในน้ำ 1 ถัง ตากให้แห้งหลังแช่ไว้สักพัก

สุขภัณฑ์และเฟอร์นิเจอร์ - คราบบนพื้นผิวเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ รวมถึงสุขภัณฑ์ในห้องน้ำ ทั้งอ่างอาบน้ำ กระเบื้อง หรืออ่างล้างมือ ล้วนทำความสะอาดได้ด้วยเบกกิ้งโซดา นำฟองน้ำหรือผ้าสะอาดไปจุ่มน้ำ บิดให้หมาดๆ จากนั้นโรยเบกกิ้งโซดาลงไป นำไปเช็ดทำความสะอาดที่พื้นผิว สุดท้ายเช็ดน้ำและเช็ดแห้ง 

ไมโครเวฟ - คราบอาหารที่กระเด็นติดในทุกด้านของไมโครเวฟ ทำความสะอาดได้โดยผสมเบกกิ้งโซดา 4 ช้อนโต๊ะกับน้ำอุ่น 1 ลิตร ใช้ผ้าชุบส่วนผสมและเช็ดภายในไมโครเวฟ เมื่อคราบออกแล้วเช็ดตามด้วยผ้าชุบน้ำอุ่นและผ้าแห้ง 

เตาอบ - พื้นด้านล่างของเตาอบมักมีเศษอาหารและคราบมันเกาะอยู่แน่น ขจัดคราบได้โดยการโรยเบกกิ้งโซดาลงไป สเปรย์น้ำตาม ทิ้งไว้ข้ามคืน จากนั้นใช้ฟองน้ำขัดคราบออก เช็ดตามด้วยน้ำ และเช็ดแห้ง 

จาน ชาม และเครื่องครัว - เครื่องครัวที่มีความมันและคราบต่างๆ รวมถึงคราบไหม้เกรอะกรังก็สามารถกำจัดได้ด้วยเบกกิ้งโซดา ให้คุณแช่เครื่องครัวเหล่านี้ในน้ำอุ่นผสมเบกกิ้งโซดา ทิ้งไว้ 15 นาทีแล้วจึงนำไปล้างตามปกติ 

หวีและแปรงหวีผม - หวีและแปรงหวีผมที่ใช้เป็นประจำทุกวัน วันละหลายๆ ครั้ง ทำให้มีสิ่งสกปรกจากน้ำมันของเส้นผมติดอยู่ตามขนแปรงได้ จะให้มานั่งเช็ดทีละซี่คงใช้เวลาไม่น้อย ให้คุณเปิดน้ำอุ่นใส่อ่างล้างมือ เติมเบกกิ้งโซดาลงไป 1 ช้อนชา นำหวีและแปรงหวีผมลงไปแช่จนคราบสกปรกหลุด จากนั้นนำมาล้างและผึ่งให้แห้ง  

ซักเสื้อผ้า 

การใช้เบกกิ้งโซดาซักผ้า นอกจากจะขจัดคราบต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ยังทำให้ผ้านุ่ม รวมถึงลดความกระด้างของน้ำ จึงทำให้ใช้น้ำยาซักผ้าน้อยลงและทำให้ซักผ้าได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น 

สูตรซักผ้าอ่อนโยน - เบกกิ้งโซดาซักผ้าได้สะอาด รวมถึงอ่อนโยนและไม่ทำให้ระคายเคืองผิว จึงสามารถใช้ซักเสื้อผ้าเด็กได้ โดยผสมเบกกิ้งโซดา ½ ถ้วยตวงในน้ำยาซักผ้าที่ไม่มีสารเคมี ใช้ซักผ้าตามปกติ  

สูตรซักผ้าขาว - ทำเหมือนเคยเวลาคุณซักผ้าขาว คือ แยกผ้าขาวจากผ้าสีและซักด้วยน้ำยาซักผ้า แต่เพิ่มเติมคือเบกกิ้งโซดา ½ ถ้วยตวง 

ขจัดคราบเฉพาะจุด - หากเสื้อผ้ามีคราบเลอะเป็นจุดๆ เช่น การกระเด็นของน้ำมันหรืออาหาร จัดการด้วยครีมขจัดคราบที่ประกอบด้วยเบกกิ้งโซดา 1 ช้อนโต๊ะผสมน้ำเล็กน้อย คนจนส่วนผสมเป็นเนื้อครีม นำไปป้ายบนคราบ ใช้ได้กับผ้าทุกชนิด ทิ้งไว้ 15 นาที แล้วนำไปล้างน้ำไหลที่ก๊อกน้ำ หากคราบยังไม่หมดให้ทำซ้ำ หากคราบฝังแน่นมากก็อาจเปลี่ยนส่วนผสมจากน้ำเป็นน้ำส้มสายชู

ความสวยความงาม

ความเป็นผลึกของเบกกิ้งโซดาช่วยขัดทำความสะอาดเพื่อขจัดคราบและสิ่งสกปรกที่ติดบนพื้นผิวได้ รวมถึงคุณสมบัติลดการอักเสบและฆ่าเชื้อโรคช่วยแก้ปัญหาผิว   

ขัดผิว - เบกกิ้งโซดาขัดผิวให้สะอาดกระจ่างใสเพราะช่วยขัดเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วให้หลุดออกไป สครับนี้ทำได้โดยการผสมเบกกิ้งโซดา 3 ส่วนกับน้ำเปล่า 1 ส่วน เวลาใช้ให้ขัดผิววนเป็นวงกลมเบาๆ ให้ทั่วแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด   

ริมฝีปาก - หากคุณอยากให้ริมฝีปากนุ่มและชุ่มชื่นดูสุขภาพดี ลองใช้เบกกิ้งโซดาครึ่งช้อนชาผสมน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ และน้ำตาลทรายเล็กน้อย นำมาขัดเบาๆ ที่ริมฝีปาก เมื่อเสร็จแล้วให้ล้างออก และทาลิปบาล์มบำรุงปิดท้าย  

สุขอนามัยในช่องปาก

เพราะเบกกิ้งโซดาสามารกินได้ การนำมาใช้ทำความสะอาดช่องปากจึงปลอดภัยหากเผลอกลืนลงไป 

แปรงฟัน - ใช้เบกกิ้งโซดาแปรงฟันทำได้ง่ายมากๆ ช่วยให้ฟันคุณขาวโดยไม่พึ่งสารเคมี เพียงโรยเบกกิ้งโซดาไปบนแปรงสีฟันเปียก แปรงฟันและป้วนน้ำตาม 

ป้วนปาก - หากคุณรู้สึกว่าน้ำยาป้วนปากที่มีจำหน่ายในท้องตลาดมีรสชาติเผ็ดเกินจะทน ลองใช้เบกกิ้งโซดา 1 ช้อนชาผสมกับน้ำ ½ ถ้วยตวง แทนการใช้น้ำยาป้วนปาก 

ฟันปลอมและรีเทนเนอร์ - กลิ่นไม่พึงประสงค์อาจตกค้างที่ฟันปลอมหรือรีเทนเนอร์ได้แม้คุณจะทำความสะอาจเป็นอย่างดี แก้ได้โดยแช่ไว้ในน้ำอุ่น แล้วเติมเบกกิ้งโซดาลงไป 2 ช้อนชา ทิ้งไว้สักพักแล้วล้างออก 

กำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์

กลิ่นส่วนใหญ่มีคุณสมบัติเป็นกรด เบกกิ้งโซดาที่มีคุณสมบัติเป็นด่างจึงดับกลิ่นอับให้หมดไป 

ตู้เย็นและตู้เสื้อผ้า - กลิ่นอาหารสารพัดปะปนกันในตู้เย็น หรือกลิ่นอับชื้นในตู้เสื้อผ้า กำจัดได้ด้วยการนำเบกกิ้งโซดาใส่กล่องเปิดฝา หรือหากกลัวหก ก็ให้ใช้ฝาที่มีรูระบาย นำไปวางไว้ในตู้เย็นและตู้เสื้อผ้าให้ดูดกลิ่น

โถชักโครก - หากโถชักโครกคุณมีกลิ่นเหม็นทำให้อบอวลไปทั้งห้องน้ำ ให้ใส่เบกกิ้งโซดาลงไป 1 ถ้วยตวง ทิ้งไว้ 1 ชั่วโมง แล้วจึงกดชักโครก

เท้าและรองเท้า - เมื่อคุณสวมใส่รองเท้าเป็นเวลานานๆ อาจทำให้เกิดกลิ่นสะสม เมื่อคุณไม่ได้ใส่รองเท้า ให้โรยเบกกิ้งโซดาไว้ข้างในเพื่อดูดกลิ่น เทเบกกิ้งโซดาออกเมื่อใช้งานครั้งต่อไป

สำหรับกำจัดกลิ่นเท้า เตรียมถังแช่เท้า เติมน้ำอุ่น และเติมเบกกิ้งโซดา ¼ ถ้วยตวงลงไปแต่ละครั้งจนน้ำกลายเป็นสีขุ่น คุณอาจบีบน้ำมะนาวลงไปเพื่อเพิ่มความหอมสดชื่น แช่เท้าทิ้งไว้สักครู่ก่อนล้างออก วิธีนี้นอกจากลดกลิ่นอับและลดเชื้อโรคแล้ว ยังเป็นการทำสปาเท้าไปในตัว 

ลบรอยขีดข่วน

รอยขีดข่วนขนแมวบนหน้าจอโทรศัพท์ หน้าปัดนาฬิกา เลนส์แว่นตา หรือบนเครื่องครัว หันไปเห็นทีไรก็ทำให้หงุดหงิดไม่สบายใจ เบกกิ้งโซดาช่วยลดรอยขีดข่วนเหล่านี้ให้ดูจางลงได้ 

เพียงผสมเบกกิ้งโซดา 4 ช้อนโต๊ะกับน้ำ 1 ลิตร คนให้เนียนเข้ากัน ใช้ผ้าไม่มีขุยจุ่มส่วนผสมแล้วเช็ดเป็นวงกลมเบาๆ บนพื้นผิว เมื่อรอยจางลง เช็ดซ้ำด้วยผ้าชื้น และผึ่งให้แห้ง มีข้อห้ามอย่างเดียวคือสูตรนี้ห้ามใช้กับอะลูมิเนียม 

แก้ปัญหาท่อตัน

ท่อตันกวนใจเพราะน้ำไม่ลงและส่งกลิ่นเหม็น พาลทำให้ล้างสิ่งของอื่นไม่ได้ด้วย เพียงคุณเทเบกกิ้งโซดาลงไปในท่อ 1 ถ้วยตวง จากนั้นเทเกลือตาม ¼ ถ้วยตวง และน้ำร้อน เท่านี้ก็ช่วยให้ท่อโล่งแล้ว 

ดับไฟไหม้

ในการทำอาหารที่มีน้ำมันและไขมันประกอบกับความร้อน หากมีการสะสมความร้อนของน้ำมันพืชเกิน 230 องศาเซลเซียส หรือไขมันสัตว์เกิน 190 องศาเซลเซียส ก็จะทำให้เกิดควันและไฟลุกไหม้ ซึ่งคุณห้ามใช้น้ำเด็ดขาดในการดับไฟเพราะจะทำให้น้ำมันและเปลวไฟกระเด็นไปไหม้จุดอื่นได้ 

สิ่งที่ควรทำคือ ปิดเตา แล้วเทเบกกิ้งโซดาจำนวนมากไปบนกระทะหรือหม้อที่มีไฟลุก ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ออกมา เมื่อเบกกิ้งโซดาโดนความร้อนก็จะสามารถดับไฟได้ 

เรื่องสวนหย่อม

ประโยชน์ของเบกกิ้งโซดาไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในบ้าน สวนหย่อมรอบบ้านยังพลอยได้ประโยชน์ไปด้วย 

มะเขือเทศหวาน - โรยเบกกิ้งโซดาไปบนดินที่ปลูกต้นมะเขือเทศช่วยลดความเป็นกรดและทำให้มะเขือเทศมีรสชาดหวาน แต่ตอนโรยระวังอย่าให้โดนต้นไม้

ดอกไม้สด - คงความสดให้ดอกไม้ในแจกันด้วยการเติมเบกกิ้งโซดาลงไปในน้ำ 1 ช้อนชา

วัชพืช - ตามร่องและซอกอิฐในสวนของคุณมักมีวัชพืชเจริญเติบโตอยู่ นำเบกกิ้งโซดาไปโรยตามร่องเหล่านี้ก็จะช่วยกำจัดวัชพืชและป้องกันวัชพืชใหม่ขึ้นได้ 

แมลงสัตว์กัดต่อย - เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เมื่อเข้าสวนต้องโดนยุงหรือแมลงกัดทำให้คันและเป็นรอยแดง 

ทันทีที่โดนกัดต่อย ให้คุณเทเบกกิ้งโซดาลงบนมือ หยดน้ำลงไปเล็กน้อยให้กลายเป็นครีม ป้ายไปบนรอยแดงจะช่วยให้รอยและอาการคันลดลง ถ้าเป็นผึ้งต่อย ให้คุณเอาเหล็กในออกก่อนจะป้ายด้วยครีม 

อายุขัยของเบกกิ้งโซดา

เบกกิ้งโซดามีอายุการใช้งานประมาณ 18 เดือน เมื่อเวลาผ่านไปเบกกิ้งโซดาจะเสื่อมคุณภาพ ควรเก็บเบกกิ้งโซดาไว้ในที่แห้งและใส่กล่องปิดฝามิดชิดเพื่อกันความชื้นและรักษาคุณภาพ

คุณสามารถทดสอบความสดใหม่ของเบกกิ้งโซดาได้โดยการใส่เบกกิ้งโซดาลงในน้ำส้มสายชู หากเกิดฟองฟูขึ้นอย่างรวดเร็วและมีฟองจำนวนมากก็แสดงว่าเบกกิ้งโซดาของคุณยังดีอยู่  

สวยครบจบที่เบกกิ้งโซดา

ประโยชน์ของเบกกิ้งโซดาช่างน่าอัศจรรย์ เบกกิ้งโซดาติดบ้านกล่องเดียวก็ช่วยงานในบ้านได้ตั้งหลายอย่าง ทั้งง่าย ปลอดภัยไร้สารเคมี และดีต่อกระเป๋าสตางค์ด้วย

เผยแพร่ครั้งแรก