Unilever logo
Cleanipedia logo

วิธีจัดการกับกระเป๋าหนัง หลังผ่านศึกฝนและผจญกับการใช้งานหนัก

กระเป๋าหนังสุดหวง หายห่วงด้วยวิธีทำความสะอาดกระเป๋าหนังแบบมือโปร

อัปเดตเมื่อ

 กระเป๋าถือผู้หญิง

ถ้าคุณเลือกใช้กระเป๋าหนัง คุณคือคนที่มีรสนิยมดีและเลือกลงทุนเพื่อใช้งานระยะยาว เพราะนอกจากกระเป๋าหนังจะสวยและดูดีมีคลาสแล้ว ยังมีการใช้งานที่ทนทานยาวนานเป็นสิบๆ ปีด้วย แต่นั่นก็หมายถึงคุณต้องรู้วิธีจัดการกับกระเป๋าหนัง เพื่อให้กระเป๋าคงคุณสมบัติดีๆ ไปตลอด มีของดีอยู่ในมือ ต้องดูแลรักษาให้ดีด้วย

กระเป๋าหนัง ทำไมถึงแพง

การทำกระเป๋าหนังไม่ใช่แค่มีหนังสัตว์แล้วเอามาเย็บก็จบ แต่มีกระบวนการมากมายกว่าจะได้กระเป๋าหนังแต่ละใบ ประเภทของหนังสัตว์และตำแหน่งของหนังบนตัวสัตว์ล้วนมีผลต่อคุณภาพของกระเป๋าทั้งสิ้น 

ที่มาของหนัง ตั้งต้นที่หนใด

มนุษย์ยุคหินใช้หนังสัตว์ที่ล่ามากินเนื้อเพื่อมาทำเครื่องนุ่งห่มและแผ่นรองสิ่งต่างๆ แต่ปัจจุบันนอกจากเพื่อการใช้งานแล้ว กระเป๋าหนังยังมุ่งเน้นไปที่แฟชั่นด้วย หนังที่นำมาทำกระเป๋าจึงต้องเลือกสรรกันตั้งแต่สัตว์เหล่านั้นยังมีชีวิตเลย เราแบ่ง หนังสัตว์ที่ใช้ทำกระเป๋าหลักๆ ได้ 3 กลุ่ม

หนังวัวและหนังควาย

หนังที่นำมาใช้ทำกระเป๋ามากที่สุดคือหนังวัวและหนังควายเพราะเป็นหนังที่มีลักษณะนุ่มและผืนใหญ่ จึงนำไปแปรรูปต่อได้เป็นหนังอีกหลายชนิดที่มีการใช้งานและเกรดของผลิตภัณฑ์แตกต่างกันออกไป เช่น 

  • Full Grain Leather หนังแท้ที่มีการตกแต่งน้อยจึงยังดูเป็นธรรมชาติ คุณภาพสูง และราคาสูง

  • Top Grain Leather เป็นหนังคุณภาพสูง ผ่านการฟอกขัดจนเรียบเงา

  • Split Grain Leather หนังที่มาจากส่วนคอและท้อง โดยมีการนำด้านในออก

  • หนังนูบัค เป็นหนังส่วนสะโพก ขัดด้วยเครื่องขัดความเร็วสูง จึงเกิดขนนิ่มๆ สั้นๆ 

  • หนังกลับ ทำจากชั้นใต้ผิวหนังที่นุ่ม 

หนังแกะ หนังแพะ และหนังหมู

หนังที่ได้จากแกะ แพะ และหมูมีจำนวนค่อนข้างมาก เพราะมีการทำปศุสัตว์สัตว์เหล่านี้เพื่อนำมาทำเป็นอาหาร จึงทำให้เหลือส่วนของหนังที่ใช้ทำประโยชน์อย่างอื่นได้ 

หนังจากสัตว์อื่นๆ

กระเป๋าหนังจากสัตว์อื่นๆ ทำจากหนังจากจระเข้ นกกระจอกเทศ ปลากระเบน และงู  กระเป๋าที่ทำจากหนังกลุ่มนี้จะมีราคาแพงมาก เพราะได้มาจากสัตว์ที่หาหนังมาได้ยาก หรือสัตว์ที่มีการเลี้ยงเป็นอย่างดีเพื่อไม่ให้หนังมีรอยตำหนิใดๆ หนังจึงมีลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ 

หนังอยู่ได้นาน ผ่านการทำอะไร

สมัยยุคหินยังไม่มีวิธีการเก็บรักษาหนังสัตว์ จึงทำให้หนังแปรสภาพไปตามสภาพแวดล้อม โดยอากาศเย็นทำให้หนังแข็งและอากาศร้อนทำให้หนังเน่าเปื่อย เพราะเหตุนี้จึงต้องมีการค้นหาวิธีจัดการกับกระเป๋าหนัง

หลังจากลองผิดลองถูกเพื่อรักษาสภาพของหนัง ทั้งตากแดด รมควัน และทาไขมันเคลือบ ก็ยังไม่ได้ผลเท่าที่ควร จนมาจบที่การฟอกหนัง ซึ่งเข้าไปเปลี่ยนโครงสร้างโปรตีนของหนัง ทำให้หนังมีความทนทานมากขึ้น การฟอกหนังแต่ละชนิดก็มีวิธีที่ต่างกัน แต่วิธีหลักๆ จะมีด้วยกัน 2 วิธี

  • การฟอกฝาด - ใช้แทนนินจากพืชในการฟอกหนัง ไม่มีการใช้สารเคมี แต่ต้องใช้เวลาตั้ง 1-3 เดือน  

  • การฟอกโครม - ใช้สารเคมีพวกเกลือของโครเมียม หนังที่ผ่านการฟอกด้วยวิธีฟอกโครมจะมีสีเขียวจึงเรียกว่าหนังเขียว (Wet Blue) ซึ่งใช้เวลาเพียง 1-2 วันเท่านั้น โดยหนังที่ฟอกแล้วจะทนความร้อนและความชื้นได้ดี  

ทำไมหนังเปียกแล้วพัง มาฟังคำตอบ

เมื่อกระเป๋าหนังโดนน้ำ หลังจากน้ำระเหยไปหมด จะทำให้น้ำมันในหนังหายไปด้วย ซึ่งเป็นเหตุให้หนังแข็งและมีรอยแตก อีกทั้งยังทำลายสารเคลือบต่างๆ ที่ปกป้องกระเป๋าหนังให้เสื่อมคุณภาพ 

น้ำมาพร้อมความชื้น อีกปัญหาที่คุณอาจประสบเมื่อกระเป๋าหนังคู่ใจเปียกน้ำก็คือเชื้อรา และถึงแม้คุณจะกำจัดราไปได้ ก็มีความเสี่ยงสูงมากที่กระเป๋าหนังของคุณจะเกิดรอยด่าง ความชื้นสะสมอาจทำให้เกิดกลิ่นเหม็นที่แก้ยากด้วย 

นอกจากเรื่องของลักษณะทางกายภาพที่พังแล้ว ยังมีเรื่องของการเคลมประกันที่คุณไม่ควรมองข้ามด้วย เพราะกระเป๋าหนังที่เสียหายจากการตากฝนอาจไม่อยู่ในเงื่อนไขของประกัน คุณต้องตรวจสอบก่อนพากระเป๋าหนังออกไปผจญภัยกับคุณ  

ไม่นะ! กระเป๋าหนังเปียกน้ำ ควรทำอย่างไร

และแล้วสิ่งที่คุณพยายามหลีกเลี่ยงก็เกิดขึ้นจนได้ กระเป๋าหนังคุณโดนน้ำ ไม่ว่าจะเป็นน้ำฝน น้ำหก น้ำกระเด็น ตกน้ำ หรืออะไรก็แล้วแต่ คุณอย่าเพิ่งถอดใจ เพราะยังมีวิธีทำความสะอาดกระเป๋าหนังที่เปียกให้คุณใช้แก้ปัญหา 

ปัจจัยที่จะบอกว่าความเสียหายจะเกิดขึ้นหรือไม่ และจะรุนแรงแค่ไหน ก็คือปริมาณน้ำ ระยะเวลาที่กระเป๋าคุณโดนน้ำ และกระเป๋าของคุณมีการป้องกันน้ำอยู่บ้างหรือไม่ ดังนั้น วิธีจัดการกับกระเป๋าหนังเปียกน้ำ ต้องรีบทำโดยอย่าปล่อยให้น้ำซึมลึก 

ซับน้ำออกให้มากที่สุดด้วยผ้าสีขาวหรือผ้าไมโครไฟเบอร์ โดยห้ามถูหรือขัดแรงๆ เพราะจะทำให้ผิวถลอก ยัดกระดาษทิชชูด้านในให้ดูดซับความชื้น จากนั้นผึ่งลมให้กระเป๋าแห้ง ห้ามใจร้อนจนเอากระเป๋าไปตากแดดหรือเป่าด้วยไดร์เป่าผม เพราะจะทำให้หนังเสียหายและแตก เมื่อแห้งแล้วให้ทากระเป๋าด้วยน้ำยาหรือครีมทำความสะอาดเครื่องหนังให้ตรงกับประเภทของหนังที่ทำกระเป๋า

ใช้อย่างสบายใจ ถ้าใส่เกราะให้กระเป๋า

หากคุณเคยพลาดพลั้งทำกระเป๋าหนังเปียก หรือเคยได้ยินเรื่องราวปวดใจนี้จากคนรอบข้าง วิธีจัดการกับกระเป๋าหนังก่อนนำไปใช้จะทั้งช่วยให้กระเป๋าหนังของคุณปลอดภัยและช่วยคลายความวิตกกังวลของคุณด้วย 

  • พยากรณ์อากาศ ขาดไม่ได้ - ก่อนออกจากบ้าน เช็คอากาศสักนิด ถ้าพายุจะเข้า คุณอาจเก็บกระเป๋าคู่ใจไว้ใช้วันหลัง ข้อดีของการตรวจสอบอากาศอีกอย่างก็คือ คุณจะได้แต่งตัวให้เหมาะสมด้วย 

  • กันฝนให้กระเป๋า เอาผ้าคลุมไปด้วย - นอกจากพกถุงไปชอปปิ้งแล้ว คุณควรพกถุงเพิ่มอีกซักใบสำหรับใส่กระเป๋าเวลาฝนพรำ หรือพกเสื้อกันฝนกระเป๋าติดตัวไปด้วย คุณหาซื้อได้ไม่ยาก

  • สเปรย์กันน้ำ ห้ามลืมใช้ - เดี๋ยวนี้มีผลิตภัณฑ์สเปรย์พ่นกระเป๋าหรือรองเท้าหนังเพื่อกันน้ำ คุณควรพ่นสเปรย์นี้เพื่อป้องกันไว้ก่อน โดยเมื่อคุณพ่นรอบแรกแล้ว ให้คุณพ่นซ้ำอีกรอบใน 2-3 ชั่วโมง ระวังการพ่นโดนส่วนที่เป็นวัสดุแข็งบนกระเป๋าเพราะอาจทำให้ดูหมองลงหากโดนสเปรย์ 

7 ข้อควรระวัง! กระเป๋าหนังดูปังไปตลอด

บางทีก็อดแปลกใจไม่ได้ ว่าตอนเป็นหนังที่อยู่บนตัวสัตว์ก็โดนน้ำและโดดอะไรต่างๆ ได้สารพัดโดยไม่มีปัญหา พอนำมาทำกระเป๋าเท่านั้นล่ะ ห้ามโดนน้ำเด็ดขาด แถมต้องระวังเรื่องอื่นๆ ด้วย แต่เราก็ต้องยอมเพื่อความสวยและดูดี

  • มือ - ก่อนจับกระเป๋าทุกครั้ง มือคุณต้องสะอาดปราศจากสารใดๆ เช่น ครีมทามือ โลชั่น เจลล้างมือ คุณควรเว้นระยะให้ครีมซึมเข้าผิวหนังจนหมดหรือให้แอลกอฮอล์ระเหยถึงค่อยสัมผัสกระเป๋าหนัง

  • สเปรย์ - วางกระเป๋าให้พ้นทางก่อนใช้สเปรย์ต่างๆ ทั้งน้ำหอม สเปรย์จัดทรงผม สเปรย์แอลกอฮอล์ ละอองฝอยที่ไปตกบนกระเป๋าหนังของคุณอาจทำให้เกิดรอยด่างได้ ถ้าคุณไปร้านตัดผมหรือซาลอนก็ยิ่งต้องระวัง 

  • ของมีคม - ในชีวิตเรามีของมีคมรอบกายหลายอย่าง ทั้งหมดนั้นต้องอยู่ให้ห่างจากกระเป๋าหนัง เช่น ปลายดินสอกด ไม้จิ้มฟัน มุมซองพลาสติก ซิป 

  • แสงแดดและความร้อน - แสงและความร้อนทำร้ายกระเป๋าหนังได้ง่ายๆ ไม่ควรนำกระเป๋าหนังไปวางติดกระจกเพราะมีครบทั้งแสงและความร้อนรวมทั้งไดร์เป่าผม

  • สิ่งสกปรก - ไม่ว่าจะไปที่ใด คุณควรพกตะขอเกี่ยวโต๊ะเพื่อห้อยกระเป๋าของคุณ จะได้ไม่ต้องนำไปวางบนพื้นผิวต่างๆ ที่อาจเปียกหรือสกปรก  

  • คราบ - เลอะเมื่อไรก็ให้ทำความสะอาดในทันที ยิ่งปล่อยไว้นานก็จะยิ่งยากที่จะขจัดคราบ 

  • ฝา - อะไรต่างๆ ที่มีฝาปิด คุณควรปิดให้สนิทก่อนนำไปใส่ในกระเป๋า ทั้งปากกา แอลกอฮอล์ น้ำหอม ตลับเครื่องสำอาง กล่องลูกอม ซองกระดาษเปียก ยาดม 

5 วิธีดูแลครอบจักรวาล

เพิ่มเติมจากข้างต้น วิธีจัดการกับกระเป๋าหนังแต่ละชนิดก็มีข้อควรระวังแตกต่างกันอยู่เล็กน้อย ลองนำไปใช้ดูนะ

  • วิธีดูแลกระเป๋าหนังวัวและหนังควาย - กระเป๋าหนังวัวและหนังควายดูแลรักษาค่อนข้างง่าย เพียงแค่หมั่นทาน้ำยาหรือครีมรักษากระเป๋าหนังเพื่อรักษาสภาพของหนังไม่ให้แห้งแตก

  • วิธีดูแลกระเป๋าหนังแกะ - หนังแกะ หนังแพะ และหนังลูกวัวมีความนุ่มและบอบบาง จึงควรใช้น้ำยาดูแลรักษาสำหรับกระเป๋าประเภทนี้โดยเฉพาะ เพราะน้ำยาบางชนิดอาจทำให้กระเป๋าเสียได้ 

  • วิธีดูแลกระเป๋าหนังจระเข้ - หนังจระเข้มีลวดลายเฉพาะตัว และมีความมันวาวกว่ากระเป๋าหนังอื่นๆ ให้คุณใช้ผ้านุ่มๆ ที่ไม่มีขุยเช็ดเบาๆ ระวังเรื่องน้ำและความชื้นเป็นพิเศษเพราะจะทำให้หนังบวม 

  • วิธีดูแลกระเป๋าหนังงู - หนังงูดูแลค่อนข้างยากและเสื่อมสภาพตามอายุการใช้งาน ห้ามชื้นเด็ดขาด แถมใช้ครีมก็ไม่ได้ คุณควรนำกระเป๋าหนังงูไปเคลือบแลกเกอร์เพื่อเพิ่มปกป้องกระเป๋า

  • วิธีดูแลกระเป๋าหนังกลับ - ดูแลยากสักหน่อย เพราะห้ามโดนน้ำเด็ดขาด โดยคุณควรระวังบริเวณสายเพราะอาจต้องสัมผัสกับเหงื่อ สเปรย์ป้องกันคือทางออก แต่ต้องเลือกคุณภาพดีไม่มีซิลิโคนและแวกซ์

สปากระเป๋าคืออะไรกันแน่

กระเป๋าก็เหมือนเราที่ต้องการผู้เชี่ยวชาญดูแลและฟื้นฟูสภาพเป็นครั้งคราว แล้วที่สปาเค้าทำอะไรกับกระเป๋าเราบ้าง ผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายมีวิธีจัดการกับกระเป๋าหนังของคุณแบบครบวงจร ตั้งแต่ทำความสะอาดคราบต่างๆ ลบรอยขีดข่วน ไปจนถึงซ่อมแซมส่วนที่ชำรุด หากกระเป๋าของคุณเจอศึกหนักมา มองหาผู้เชี่ยวชาญปลอดภัยที่สุด 

เมื่อยังไม่ใช้ ให้เก็บอย่างไร

การเสื่อมสภาพของกระเป๋าหนังไม่ได้เกิดจากการใช้งานเท่านั้น การเก็บรักษาที่ไม่ถูกต้องก็ทำให้กระเป๋าเสียหายจากสภาพแวดล้อมได้ 

ก่อนเก็บกระเป๋าทุกครั้ง คุณควรทำความสะอาดและผึ่งลมจนแห้งสนิท ขยำกระดาษขาวที่ไม่มีหมึกพิมพ์ลงไปในกระเป๋าเพื่อดันให้อยู่ทรง ใส่ซองกันชื้นไว้ด้านใน และนำใส่กระเป๋ากันฝุ่น 

ส่วนสถานที่เก็บ ควรอยู่ห่างไกลแสงแดด ความร้อน และความชื้น อย่าวางกระเป๋าทับซ้อนกันหรือติดกันเกินไป เพราะอาจทำลายสารเคลือบภายนอก ถ้าเก็บไว้นานๆ ควรนำออกมาบำรุงรักษาเป็นระยะด้วย   

ขอเวลาสักนาที ดูแลพี่(กระเป๋าหนัง)ด้วย

กระเป๋าหนังมีความเฉพาะตัวในแต่ละใบ เพราะหนังแท้ที่มาจากการสร้างสรรค์ของธรรมชาติยากที่จะมีซ้ำกัน คุณจึงควรสละเวลาซักนิดในการดูแลและใช้วิธีทำความสะอาดกระเป๋าหนัง เพียงเท่านี้กระเป๋าหนังที่รักก็จะไม่จากคุณไปไหน

เผยแพร่ครั้งแรก