เชื่อว่าทุกคนคงเคยประสบมาแล้วกับปัญหาผ้าเป็นขุย หากปล่อยทิ้งไว้ นอกจากจะทำให้เสื้อผ้าตัวโปรดของคุณดูเก่าซอมซ่อและดูไม่สบายตาแล้ว ยังทำให้ผู้สวมใส่ขาดความมั่นใจอีกด้วย
แต่ไม่ต้องกลุ้มกังวล เรามีวิธีกำจัดขุยผ้าแบบครบครันมาฝาก รับรองว่าเป็นวิธีดูแลเสื ้อผ้าที่สะดวก รวดเร็ว และช่วยให้เสื้อผ้าของคุณกลับมาดูสวยเหมือนใหม่ มองแล้วสบายตาได้แน่นอน
ขุยผ้าเกิดขึ้นได้อย่างไร
ขุยผ้า ก็คือ เส้นใยผ้าที่รุ่ยออกมาติดค้างอยู่บนพื้นผิวผ้านั่นเอง ซึ่งพอผ้าเป็นขุย เสื้อผ้าชิ้นนั้นก็จะดูเหมือนของเก่าที่ถูกใช้งานมาอย่างสมบุกสมบันทันที
สาเหตุส่วนหนึ่งอาจจากการสึกหรอหรือเสื่อมสภาพของเนื้อผ้าตามกาลเวลา หรือเกิดจากการเสียดสีระหว่างใช้งานในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะบริเวณที่เสียดสีกับเป้หรือกระเป๋าสะพาย บริเวณที่สัมผัสกับเข็มขัดนิรภัยเป็นประจำ บริเวณใต้วงแขนและตลอดแนวหัวกางเกง/กระโปรง หรือแม้แต่การใส่นอนที่เนื้อผ้าเสียดสีกันไปมาตลอดคืน
ตัวการหลักอีกอย่างที่ทำให้ผ้าเป็นขุยมักเกิดจากการซักผ้าที่ไม่ถูกวิธี โดยเฉพาะการซักเครื่องที่อาจทำให้ผ้าเป็นขุยได้ง่ายกว่าการซักมือ เพราะเนื้อผ้าด้านนอกเสียดสีกันเองและกับถังซัก จนเส้นด้ายบางส่วนรุ่ยออกมาในที่สุด
เคล็ดวิธีกำจัดขุยผ้าโดยไม่ต้องใช้เครื่องช่วย
แน่นอนว่าวิธีที่ง่าย สะดวก และรวดเร็วที่สุดคงหนีไม่พ้นการหาซื้อเครื่องกำจัดขุยผ้า (sweater shaver หรือ fabric defuzzer) ที่มีขายทั่วไปในท้องตลาดมาไว้ติดบ้าน พอเห็นว่าเสื้อผ้ามีขุยเมื่อไหร่ก็หยิบมาใช้ได้ทันที แต่ถึงจะสะดวกอย่างไรก็ต้องใช้อย่างระวัง โดยต้องค่อยๆ ถูวนเป็นวงกลมให้ทั่วบริเวณที่เกิดขุยจนกว่าจะหลุดออกหมด อย่ารีบร้อนและออกแรงกดมากเกินไป ไม่เช่นนั้นเนื้อผ้าอาจเสียหายหรือบางลงจนฉีกขาดง่าย
คำถาม คือ แล้วถ้าไม่มีเครื่องกำจัดขุยผ้าล่ะ เพราะราคาก็ค่อนข้างสูง จะทำอย่างไรดี ตอบได้เลยว่านี่ไม ่ใช่ปัญหาใหญ่ เพราะคุณสามารถทำเองได้ด้วยวิธีอื่น โดยใช้อุปกรณ์ที่หาได้ในบ้าน สะดวก ง่ายดาย ได้ผลไม่ต่างกัน ทั้งยังช่วยคุณประหยัดอีกด้วย
วัสดุ-อุปกรณ์ที่ต้องใช้
(เลือกอย่างใดอย่างหนึ่งตามที่คุณสะดวก)
เทปกาวหรือแถบตีนตุ๊กแก
กรรไกรหรือมีดโกนหนวด
หินภูเขาไฟ
ระยะเวลาที่ใช้ขึ้นอยู่กับเนื้องานว่าบริเวณที่ผ้าเป็นขุยกินพื้นที่มากน้อยแค่ไหน แต่ส่วนใหญ่ใช้เวลาประมาณ 5 - 10 นาที
ขั้นแรก ให้ซักทำความสะอาดเสื้อผ้าแล้วตากให้แห้ง จากนั้นเลือกใช้วิธีกำจัดขุยผ้าอย่างง่ายๆ ตามแต่สะดวก ดังต่อไปนี้
วิธีที ่ 1 ใช้แรงดึงจากเทปกาวหรือแถบตีนตุ๊กแก
เทปกาวหรือแถบตีนตุ๊กแก (Velcro tape) เป็นของใช้หาง่ายใกล้ตัว นับเป็นหนึ่งตัวเลือกที่สะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากๆ แต่ควรเลือกเบอร์ใหญ่หน่อย จะได้กำจัดขุยผ้าออกได้คราวละมากๆ
วางเสื้อผ้าบนพื้นโต๊ะหรือพื้นผิวที่ราบเรียบเสมอกันและสะอาด จัดแผ่ผ้าให้ตึง
แปะเทปกาวหรือแถบตีนตุ๊กแกลงบนเสื้อผ้าบริเวณที่เป็นขุย
ใช้นิ้วมือกดให้ทั่ว เพื่อให้วัสดุแนบติดกับเนื้อผ้าอย่างทั่วถึง
ค่อยๆ ดึงวัสดุออกอย่างระมัดระวัง เท่านี้ขุยผ้าก็จะหลุดและติดออกมาอย่างง่ายดาย
ถ้ายังมีขุยผ้าหลงเหลืออยู่ ให้ทำซ้ำจนกว่าขุยผ้าจะหลุดออกหมด
เคล็ดลับ
วิธีนี้เหมาะกับเนื้อผ้าบางประเภท เช่น ผ้าแคชเมียร์ หรือผ้าขนแกะ ถ้าที่บ้ านไม่มีวัสดุสองอย่างนี้อาจใช้โรลม้วนผมตีนตุ๊กแกแทนก็ได้ โดยกลิ้งโรลม้วนผมขึ้นไปทางด้านบนแล้วยกขึ้น ขุยผ้าจะหลุดติดไปกับโรลม้วนผม ทำซ้ำไปเรื่อยๆ จนกระทั่งขุยผ้าหลุดออกหมด ข้อดีของโรลม้วนผม คือ มีเนื้อสัมผัสที่นุ่มนวล จึงไม่เป็นอันตรายต่อเนื้อผ้า
วิธีที่ 2 เล็มออกด้วยกรรไกรหรือมีดโกนหนวด
แนะนำให้เลือกใช้กรรไกรขนาดเล็กเพื่อให้คุณควบคุมได้ง่ายและเข้าถึงตำแหน่งที่ต้องการได้แม่นยำขึ้น ยิ่งถ้าได้กรรไกรหัวมนหรือปลายโค้งยิ่งดี เพราะจะช่วยลดความเสี่ยงที่คุณจะพลาดเอาปลายแหลมของกรรไกรแทงผ้าจนขาดเป็นรู
วิธีนี้อาจต้องใช้เวลา สมาธิ และความระมัดระวังมากสักหน่อย แต่ได้ผลดีเยี่ยมสุดๆ
สอดมือข้างหนึ่งเข้าไปใต้ผ้าบริเวณที่เป็นขุย ใช้ฝ่ามือข้างนั้นรองผ้าไว้
ใช้นิ้วมือข้างที่รองผ้าไว้ช่วยดันส่วนที่เป็นขุยให้นูนขึ้น ใช้มืออีกข้างจับกรรไกรมาเล็มขุยผ้าออกทีละจุดอย่างระมัดระวัง โดยกะให้กรรไกรแนบพอดีกับพื้นผิวของผ้า ไม่ชิดหรือห่างเกินไป เพื่อไม่ให้เผลอไปตัดโดนเนื้อผ้า
ถ้าคุณเลือกใช้มีดโกนหนวด ให้วางผ้าราบเสมอไปกับพื้นโต๊ะ ดึงบริเวณที่เป็นขุยให้ตึง แล้วใช้มีดโกนหนวดค่อยๆ ถากขุยออก (อย่างเบามือที่สุด) เหมือนกับการโกนหนวดปกติ โดยหันใบมีดโกนให้อยู่ในมุมและทิศเดียวกับขุยผ้าเสมอ
กำจัดขุยผ้าที่ถูกตัดหรือถากออกโดยใช้เทปกาวแปะลงไปบนผ้า จากนั้นค่อยๆ ดึงออก ทำซ้ำจนกว่าจะกำจัดเศษขุยผ้าออกหมด
เคล็ดลับ
กรณีเลือกใช้กรรไกร ควรลับคมกรรไกรก่อน โดยนำกรรไกรไปตัดกระดาษทรายเบอร์ 1 (ชนิดที่ใช้ขัดเหล็กหรือไม้) เป็นเส้นเรื่อ ยๆ สักพัก กรรไกรที่คมจะช่วยให้คุณทำงานง่ายขึ้น เร็วขึ้น และได้งานที่เรียบร้อยขึ้นด้วย
ถ้าจะใช้มีดโกน ควรเลือกมีดโกนที่ใหม่และคม ซึ่งจะให้ประสิทธิภาพในการกำจัดขุยผ้าที่ดีกว่า ควรระวังอย่าให้ใบมีดขูดติดกับเนื้อผ้ามากเกินไป เพราะอาจทำให้ผ้าเกิดความเสียหายได้ นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการใช้มีดโกนหนวดที่มีแถบสารหล่อลื่น เพราะจะทำให้เกิดขุยผ้าเพิ่มขึ้น
วิธีที่ 3 ใช้หินภูเขาไฟ
ไม่น่าเชื่อว่าหินภูเขาไฟ (pumice stone) ไม่ได้มีประโยชน์แค่ช่วยกำจัดผิวที่แห้ง แตก และหยาบกร้านออกจากเท้าของเราเท่านั้น แต่ยังช่วยกำจัดขุยผ้าออกได้ดีอีกด้วย
เริ่มด้วยการวางผ้าราบไปกับพื้นโต๊ะ จากนั้นดึงให้ตึง
นำหินภูเขาไฟไปถูบริเวณที่เป็นขุยอย่างเบามือ
เสร็จแล้วใช้เทปกาวแป ะลงไปบนผ้าเพื่อดึงเศษขุยผ้าที่ติดอยู่ออก ทำซ้ำจนขุยผ้าหลุดออกหมดเกลี้ยง
เคล็ดลับและข้อควรระวัง
ควรถูหินภูเขาไฟไปในทิศทางเดียวกันเสมอ เช่น ถ้าจากบนลงล่างก็ต้องบนลงล่างเหมือนกันทุกครั้ง ไม่ควรถูไปถูมาแบบไร้ทิศทาง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดแรงเสียดสีจนผ้าเกิดขุยเพิ่ม
ไม่แนะนำให้ใช้วัสดุที่มีลักษณะคล้ายๆ กัน อย่างสก็อตไบร์ท (ที่ยังไม่เคยใช้งาน) สก็อตไบร์ทช่วยดึงเศษขุยผ้าออกได้ก็จริง แต่ก็อาจทำให้เนื้อผ้าถลอกและยิ่งเกิดขุยเพิ่มขึ้นได้
วิธีกําจัดขุยผ้าขนหนูใหม่
ผ้าขนหนูที่ซื้อมาใหม่อาจมีเศษด้ายหรือขุยผ้าติดมาด้วย แม้ว่าก่อนใช้จะนำ ไปซักแล้วก็ยังมีขุยผ้าหลงเหลือให้เห็นเช่นเดิม ถ้าเจอแบบนี้ไม่ต้องกังวลใจ เรามีวิธีช่วยคุณจัดการ
วัสดุ-อุปกรณ์ที่ต้องใช้
แผ่นอบผ้า (dryer sheet) หรือเรียกกันอีกชื่อหนึ่งว่า น้ำยาปรับผ้านุ่มแบบแผ่น
เครื่องอบผ้า
เครื่องซักผ้า
ราวตากผ้า
วิธีการ
ใส่ผ้าขนหนูที่แห้งแล้วลงไปในเครื่องอบผ้า ตามด้วยแผ่นอบผ้า 2-3 แผ่น
เปิดการทำงานของเครื่องอบผ้า โดยตั้งเวลาอบผ้า 30 นาที
แรงสั่นในเครื่องอบผ้าจะทำให้ขุยผ้าค่อยๆ หลุดออกจากเนื้อผ้า ส่วนแผ่นอบผ้า ซึ่งนอกจากจะช่วยให้ผ้านุ่มหอมและไม่แห้งกรอบแล้ว ยังช่วยให้เศษขุยผ้าหลุดออกจากพื้นผิวของผ้าขนหนูง่ายขึ้นด้วย
ถ้าคุณไม่อยากใช้แผ่นอบผ้ากับผ้าขนหนูของคุณ เพราะเกรงสารปรับผ้าน ุ่มจะมีผลกับประสิทธิภาพในการซับน้ำของผ้าขนหนู การซักและอบตามปกติก็ช่วยกำจัดขุยผ้าได้เช่นกัน
นอกจากนี้ คุณอาจซักตามปกติ แต่แทนที่จะอบผ้า ให้เลือกใช้วิธีตากให้แห้งบนราวตากผ้าแทน ลมธรรมชาติจะช่วยพัดพาขุยเล็กๆ ให้หลุดออก การใช้มือตบหรือสะบัดผ้าด้วยช่วยได้เช่นกัน
ไม่ว่าคุณจะเลือกใช้วิธีไหน ต้องทำใจสักหน่อยว่า การที่ขุยผ้าขนหนูจะหลุดออกจนถึงระดับที่ยอมรับได้ อาจต้องผ่านกระบวนการซักแล้วอบหรือตากหลายรอบ กว่าทุกอย่างจะเข้ารูปเข้ารอย
เคล็ดลับควรรู้
ผ้าขนหนูใหม่ๆ จะถูกเคลือบด้วยสารเคมีพิเศษที่อาจปิดกั้นขีดความสามารถในการซับน้ำ วิธีล้างสารเคลือบดังกล่าวออก คือ ใส่น้ำส้มสายชูลงไประหว่างขั้นตอนการล้างผ้า
การใส่เกลือลงไปในน้ำล้างผ้าจะช่วยให้สีของผ้าขนหนูไม่ซีดจางเร็ว

วิธีป้องกันปัญหาผ้าเป็นขุย
บอกลาปัญหาเสื้อผ้าเป็นขุยได้ตั้งแต่ต้นทาง โดยเลือกเนื้อผ้าที่มีโอกาสเกิดขุยน้อยกว่า เนื้อผ้าที่ทำมาจากเส้นใยผสมมักมีโอกาสเกิดขุยผ้ามากกว่าจากการเสียดสีกันของเส้นใยต่างชนิด โดยเฉพาะเนื้อผ้าที่เกิดจากการผสมเส้นใยที่แตกต่างกันมากกว่า 3 ชนิด
กรณีเสื้อสเวตเตอร์ ควรเช็กดูเนื้อผ้าทุกครั้งก่อนซื้อ สเวตเตอร์ที่ถักแน่นจะมีโอกาสเกิดขุยผ้าน้อยกว่าสเวตเตอร์ที่ถักหลวม และควรใช้วิธีการซักด้วยมือซึ่งเป็นวิธีการซักผ้าที่นุ่มนวลที่สุด เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ซักผ้าสำหรับการซักมือโดยเฉพาะ
สำหรับวิธีที่ง่ายที่สุดในการป้องกันปัญหาผ้าเป็นขุย ก็คือ กลับด้านในเสื้อผ้าออกด้านนอกทุกครั้งก่อนนำไปซักเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดขุยผ้าที่มองเห็นได้ชัดจากการเสียดสีกันเองของผ้าหรือกับเสื้อผ้าตัวอื่นๆ และอย่าลืมใส่เสื้อผ้าที่บอบบางลงในถุงตาข่ายเพื่อป้องกันการขีดข่วน
แยกประเภทของเสื้อผ้าออกจากกันเพื่อถนอมเนื้อผ้าและป้องกันสีตก ซักด้วยโปรแกรมถนอมผ้าเพื่อลดเวลาในการซักและลดการเสียดสีไปในตัว นอกจากนี้ ควรเลือกใช้ผงซักฟอกหรือน้ำยาซักผ้าสูตรอ่อนโยนอย่าง คอมฟอร์ท อัลตร้า ผลิตภัณฑ์ปรับผ้านุ่มสูตรเข้มข้นพิเศษ ซึ่งจะช่วยลดแรงเสียดสีของเนื้อผ้าที่บอบบางและป้องกันการขึ้นขน เป็นเม็ด หรือเกิดขุยผ้า
ท้ายสุด ควรหลีกเลี่ยงการอบผ้า ถ้าเป็นไปได้ควรเลือกวิธีการตากผ้าให้แห้งตามธรรมชาติแทนการใช้เครื่องอบผ้า เพราะมีโอกาสการเกิดการเสียดสีของเสื้อผ้าน้อยกว่าและช่วยป้องกันไม่ให้ผ้าเป็นขุยได้ และหมั่นแปรงด้วยลูกกลิ้งกำจัดขนเป็นประจำ จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดขุยผ้าสะสมบนเสื้อผ้าได้เป็นอย่างดี
รู้แล้วใช่ไหมว่าขุยผ้าไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เราสามารถกำจัดได้ไม่ยากเย็นอย่างที่คิด การดูแลรักษาเสื้อผ้าอย่างถูกวิธีช่วยลดความเสียหาย เสื้อผ้าสวยทนนาน และประหยัดรายจ่ายได้มากทีเดียว
ผ้าสำลีทำให้เกิดปัญหาสุขภาพได้หรือไม่?
สิ่งสกปรกจากผ้าอาจทำให้เกิดร่องรอยผมหรื อหนาวเล็กในเสื้อผ้าที่เราสวมใส่ ข้อสงสัยคือว่าสกปรกอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพหรือไม่? การมีร่องรอยผมหรือหนาวเล็กบนผิวและระบบทางเดินหายใจอาจทำให้รู้สึกคันหรือมีอาการแพ้และระคายเคืองบางส่วนได้ อย่างไรก็ตาม การเก็บรังผมและสกปรกอย่างเหมาะสมจะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดปัญหาสุขภาพ คุณสามารถใช้เครื่องดูดรังผมหรือตัวที่สามารถเก็บสกปรกจากผ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ควรระวังและทำความสะอาดเสื้อผ้าอย่างสม่ำเสมอเพื่อลดการสะสมของรังผมและสกปรกที่อาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพได้